รองผู้ว่าฯ กทม.ประกาศ ข้าราชการ สามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้

รองผู้ว่าฯ กทม. แถลงนโยบาย ให้ราชการสามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้ แต่ต้องทำงานและรับใช้ประชาชนด้วยความซื่อสัตย์

วันนี้ (24 มิ.ย.2568) ที่ศาลาว่าการ กทม. น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงนโยบายความหลากหลายทางเพศ ว่า การตระหนักรู้ถึงความหลากหลายทางเพศคือเรื่องสำคัญ ในอดีตสังคมอาจไม่ค่อยยอมรับเรื่องนี้ แต่ปัจจุบันโลกของเราเปลี่ยนไปแล้ว การยอมรับความหลากหลายทางเพศจะทำให้คนในสังคมมีความเข้าใจกัน ซึ่งจะนำไปสู่การยอมรับความแตกต่างเรื่องอื่นๆ มากขึ้นด้วย

รองผู้ว่าฯ กทม.ประกาศ ข้าราชการ สามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้

ดังนั้นผู้ว่าฯกทม. จึงประกาศให้ข้าราชการ กทม.แสดงความเป็นตัวของตัวเอง โดยการเปิดโอกาสให้ข้าราชการแต่งกายตามเพศสภาพได้ เพราะเรื่องการแต่งกาย เป็นความชอบส่วนบุคคลนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เป็นแค่ส่วนประกอบเท่านั้น แต่ต้องปฎิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ ทำงานให้ดี ไม่บกพร่อง รวมถึง เรื่อง Sexual Harassment หรือการล่วงละเมิดทางเพศ ต้องปกป้องไม่ให้เกิดภาวะอึดอัดหรือรังแกกัน ไม่ว่าการกระทำนั้นจะมาจากการใช้ตำแหน่งหน้าที่กดดัน บังคับ หรือมาจากเพศสภาพ เพศวิถี ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น

 

รองผู้ว่าฯ กทม.ประกาศ ข้าราชการ สามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้

นอกจากนี้ กทม.ยังต้องการส่งเสริมความต้องการของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เช่น บริการด้านสาธารณสุข บริการด้านจิตวิทยา ความปลอดภัย และห้องน้ำสาธารณะ รวมไปถึงการให้ความรู้ในโรงเรียน การจัดงาน และการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ กทม. เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้สังคมเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศมากขึ้น

สำหรับแนวทางสนับสนุนความหลากหลายทางเพศของ กทม. ประกอบด้วย ข้าราชการและบุคลากรของ กทม.สามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้ให้บริการคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย (BKK Pride Clinic) 31 แห่ง ในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร 11 แห่ง และศูนย์บริการสาธารณสุข 20 แห่ง เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัย และส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียม จัดเทศกาล Pride Month เดือนมิ.ย. เดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQIA+ ตั้งเป้าเป็นเทศกาลระดับโลก (World Pride) โรงเรียนสังกัด กทม.ปลูกฝังค่านิยมด้านความเท่าเทียมและความหลากหลาย เปิดพื้นที่สาธารณะสำหรับจัดกิจกรรมด้านความหลากหลายทางเพศ เพื่อส่งเสริมสิทธิ หน้าที่และโอกาสทางสังคมของกลุ่ม LGBTQIA+