"เจ๊เจ้ย" เพิ่งรู้ทำงานงกๆ หาเงินให้ผัวเปย์สาว สุดท้ายโดนหลอก

กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่โลกออนไลน์จับตามอง กรณีของหญิงสาวรายหนึ่งที่ถูกระบุว่า แอบอ้างเป็น “หม่อมฯ” โดยใช้บุคลิกและคำพูดอ้างว่าตนมีพี่ชายเป็นผู้พิพากษา รู้จักคนใหญ่คนโตในแวดวงกฎหมาย ก่อนจะหลอกให้ฝ่ายชายซึ่งเป็นนักธุรกิจหลงเชื่อ และยอมโอนเงินให้เพื่อใช้ต่อสู้คดีตามที่เธอกล่าวอ้าง
 

 

เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยผ่านรายการ “โหนกระแส” โดย “พี่หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” เชิญ “เจ๊เจ้ย” และ “เสี่ยเทียน” สามี - ภรรยานักธุรกิจที่ทำอาชีพเช็ดกระจกมาร่วมพูดคุยในรายการ พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่าเสี่ยเทียนถูกหญิงสาวรายนี้ตีสนิทและอ้างตัวว่าเป็นหม่อม มีเบื้องหลังใหญ่โต สร้างความน่าเชื่อถือจนหลงเชื่อ ยอมให้ความช่วยเหลือและโอนเงินไปเรื่อย ๆ

ยอดเงินที่ถูกหลอกไปสูงถึง 22 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้เรื่องยังไม่มีความคืบหน้าในด้านคดีความ ทำให้ครอบครัวของเจ๊เจ้ยต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม และเตือนภัยสังคมถึงพฤติกรรมของหญิงสาวรายนี้ ซึ่งชาวเน็ตต่างตั้งฉายาว่า “หม่อมเก๊”

 

เสี่ยเทียนเล่าว่า จุดเริ่มต้นมาจากการนำรถไปซ่อม และได้พบหญิงสาวคนนี้ซึ่งเป็นเสมียนของอู่รถ ยอมรับว่าเกิดความชอบส่วนตัว จึงมีการพูดคุยและให้เงินเล็กน้อยในช่วงแรก ตลอด 3 ปีแรกที่ติดต่อกัน แม้ไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง แต่ก็มีการจับมือ แตะแขนบ้าง เพราะรู้สึกชอบและให้เกียรติเธอ
 

ต่อมาหญิงสาวเริ่มออกอุบาย โดยอ้างว่าตนมีทรัพย์สินหลายสิบล้านแต่ถูกอายัด จำเป็นต้องใช้เงินในการ “วิ่งเต้น” ต่อสู้คดี มีพี่ชายเป็นผู้พิพากษา และยังแอบอ้างรู้จักบุคคลระดับสูงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

 

 

หญิงสาวรายนี้ยังแสดงเอกสาร ข้อความ และอีเมลที่อ้างว่ามาจากเลขาฯ กระทรวงการคลัง หรือจากผู้มีอำนาจระดับสูงต่าง ๆ เพื่อโน้มน้าวให้เสี่ยเทียนเชื่อว่ากำลังมีคดีความอยู่จริง และมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องโอนอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งเสี่ยเทียนก็หลงเชื่อและจัดหาเงินให้ทุกครั้ง

 

เงินก้อนแรกที่เสี่ยเทียนเสียไป สูงถึงกว่า 7 ล้านบาท เมื่อหาเงินไม่ได้ก็เริ่มนำทองไปจำนำ ขายทรัพย์สินส่วนตัว จนเจ๊เจ้ยเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติและซักถาม สุดท้ายเสี่ยเทียนจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ภรรยาฟัง

แม้จะรู้สึกโกรธและเจ็บปวด เจ๊เจ้ยก็ยังเลือกอยู่ข้างสามี เธอเล่าว่าตัวเองขับรถ 6 ล้อ รับส่งคนงาน ส่วนสามีขับเบนซ์เปิดประทุน แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้น เธอก็ยังยื่นมือช่วยเหลือ แม้กระทั่งต้องขายทรัพย์สินทุกอย่าง รวมถึงรถ 6 ล้อที่ใช้ทำมาหากิน เพื่อหาเงินมาช่วยสามีให้พ้นวิกฤต

 

เหตุผลที่ยังยอมช่วยเหลือ แม้รู้ว่าอาจเป็นการหลอกลวง เพราะเสี่ยเทียนยังคงยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความจริง หากอยากได้เงินคืนก็ต้องเดินหน้าให้ถึงที่สุด แม้จะทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนถึงขั้นเคยจะแทงกัน แต่วันนี้เจ๊เจ้ยบอกว่าไม่ได้โกรธอีกแล้ว ความรู้สึกต่อสามีก็เปลี่ยนไป เหลือเพียงแค่ความผูกพัน เหมือนเพื่อนที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมากกว่า