"สรยุทธ" ปอกกล้วยโชว์ 2 พ่อลูกฝั่งกัมพูชา ก่อนบอก "มันสายไปแล้ว"

ยังคงเกาะติดประเด็นร้อนแรงระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงหนึ่งของรายการ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้ระบุว่ายังไม่มีใครตัดเน็ตสมเด็จฮุน เซน ที่ล่าสุดโพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้ง เทียบภาพกัมพูชาในอดีตกับกัมพูชาในปัจจุบัน พร้อมระบุข้อความทำนองว่า ถ้าไม่มีอะไรให้เปรียบเทียบเราคงไม่รู้ว่าเริ่มต้นจากจุดใด แล้วมาถึงจุดไหน เราเดินทางมาถึงจุดนี้แล้วก็ต้องก้าวไปข้างหน้าต่อ ไม่ย่ำอยู่ประวัติศาสตร์เดิม ขอขอบคุณสันติภาพ ขอบคุณผู้นำนโยบาย และตบท้ายว่า ชนะ ชนะ 

 

ด้าน สรยุทธวิเคราะห์ว่า โพสต์ดังกล่าวดูเหมือนเป็นการสื่อสารในเชิงการพัฒนาความเจริญ โดยใช้ภาพด้านล่างเป็นอดีต ด้านบนเป็นปัจจุบัน และเหนือจอทีวีนั้นอาจสื่อถึงอนาคต ขณะเดียวกัน ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และเป็นบุตรชายของสมเด็จฮุน เซน ได้ลงภาพขณะเดินทางไปเยี่ยมประชาชนที่ศูนย์อพยพในจังหวัดพระวิหาร พร้อมพูดคุยสอบถามความเป็นอยู่ โดยกล่าวกับประชาชนว่า

 

“กัมพูชาไม่ต้องการให้เกิดสงคราม เพราะสงครามไม่เพียงอันตรายต่อทหารแนวหน้าเท่านั้น แต่ยังสร้างความยากลำบากแก่ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตสงคราม เราไม่ต้องการเห็นสงคราม เพราะว่าเราผ่านจุดนั้นมาแล้ว แต่เราก็จะไม่นิ่งเฉยหากถูกรุนราน” และยังเปรียบตัวเองเป็น "งู" สร้างแรงกระเพื่อมในแวดวงการเมืองระหว่างประเทศ
 

 

ในรายการ สรยุทธตั้งคำถามกลับอย่างตรงไปตรงมาว่า "โทษเถอะ ใครจะไปรบ ?" พร้อมชี้ว่าหากใครเริ่มใช้กำลังรุกรานเมื่อไหร่คือแพ้ทันที เดี๋ยวจะรอดูว่า 2 พ่อลูกนี้ เมื่อไหร่จะออกมาตอบสนองกรณีที่นายกรัฐมนตรีไทย แพทองธาร ชินวัตร หยิบยกข้อมูลจาก UN บอกว่ากัมพูชาคือศูนย์กลางอาชญากรรมออนไลน์ ค้ามนุษย์ข้ามชาติ โดยมีความเสียหาย 6 แสนล้าน 

 

สรยุทธ อธิบายต่อว่า ตนกำลังเฝ้ารอดูอยู่ว่า สองพ่อลูกจากฝั่งกัมพูชา จะมีท่าทีตอบสนองต่อกรณีที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย หยิบยกข้อมูลจาก สหประชาชาติ (UN) มาระบุว่า กัมพูชาเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมออนไลน์และการค้ามนุษย์ข้ามชาติ โดยมีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 600,000 ล้านบาท

 

โดยมีข้อมูลสนับสนุนว่า รายได้จากกิจกรรมผิดกฎหมายออนไลน์ในกัมพูชา คิดเป็น 60% ของ GDP ประเทศ หากไทยประกาศเป็นเจ้าภาพกำจัดคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพ รายได้ก้อนมหาศาลของกัมพูชาจะหายไปถึง 60% ซึ่งเท่ากับรายได้หลักของประเทศ

 

สรยุทธย้ำว่า “รอดูคำตอบของสองพ่อลูกอยู่ ตกลงว่ายังไงเรื่องนี้?” จากนั้นกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนเพิ่มเติมว่า “แล้วจะตอบยังไงล่ะตอนนี้ ด่านปิดไปหมดแล้ว เมื่อวานยังเสียงดีอยู่เลย ว่าง่ายอย่างกับปอกกล้วย ถ้าเราเปิด เขาก็เปิด ไม่ต้องมาเจรจากัน ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย” ก่อนจะระบุอีกว่า “ตอนนี้ไทยปิดหมดแล้วทุกด่าน ไม่เพียงแค่ไม่เปิด แต่ยัง ปิด ด้วย ไม่เหลือแม้แต่ด่านเดียว”

 

ขณะพูดถึง “ปอกกล้วย” สรยุทธก็หันไปขอกล้วยจากทีมงานว่า “เอากล้วยมาซิ จะให้กล้วยเขาสักหน่อย” ก่อนจะหยิบกล้วยมาโชว์หน้ากล้อง พร้อมปอกให้ดูแล้วพูดว่า “นี่ไงน้อง ปอกกล้วยนี่มันง่ายอย่างงี้” พร้อมตอกย้ำอีกครั้ง “นี่ กล้วย!” และปิดท้ายด้วยคำว่า “แต่มันสายไปแล้ว” ก่อนจะกินกล้วยให้ดูกลางรายการ