- 26 มิ.ย. 2568
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหนึ่งในบัญชีม้า แก๊งกองร้อยปอยเปต หลอกโอนเงิน ผู้เสียหายหลงกลสูญเงินกว่า 5 ล้านบาท
วันที่ 26 มิถุนายน 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมกันจับกุม น.ส.จินตหราฯ อายุ 37 ปี หนึ่งในบัญชีม้าแก๊งกองร้อยปอยเปต ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 4725/2567 ลงวันที่ 26 กันยายน 2567
ในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน"
สถานที่จับกุม บริเวณบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 3 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พฤติการณ์สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่าถูกคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดโทรศัพท์ติดต่อ โดยอ้างว่าเป็นพนักงานของบัตรเครดิตธนาคารแห่งหนึ่ง และบอกกับผู้เสียหายว่ามีบัตรเครดิตอีก 1 ใบยังค้างชำระอยู่ และได้แนะนำให้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองน่าน โดยอำนวยความสะดวกติดต่อให้
ต่อมามีกลุ่มบุคคลเป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองน่าน ได้แอดไลน์มาคุยกับผู้เสียหาย โดยมีชายหนึ่งในนั้นแต่งชุดตำรวจในเครื่องแบบ และเห็นหน้าชัดเจน บอกว่าตนเองเป็นผู้กำกับ สภ.เมืองน่าน จะทำการตรวจสอบบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย เนื่องจากตรวจพบว่าบัญชีธนาคารเกี่ยวข้องกับคดีบัญชีม้า และยาเสพติด ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินให้คนร้ายที่บัญชีธนาคาร 3 ครั้ง 3 แห่งด้วยกัน รวมความเสียหายจำนวน 5 ล้านบาท หนึ่งในบัญชีนั้นเป็นชื่อของ น.ส.จินตหราฯ ผู้ต้องหารายนี้ จึงได้ทำการสืบสวนและติดตามจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายนี้ ก่อนจะทราบว่า น.ส.จินตหราฯ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังตะเคียน เข้าตรวจสอบก่อนแสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าในช่วงเวลา 2–3 ปีที่ผ่านมา ได้เปิดบัญชีธนาคารให้ผู้อื่นไปหลายครั้ง โดยมีนายหน้า ซึ่งจำชื่อสกุลและหน้าตาไม่ได้ เป็นคนจัดการพาไปเปิดบัญชีธนาคาร ผูกบัญชีกับโทรศัพท์ และอื่น ๆ จากนั้น ได้มีชายไทยไม่ทราบชื่อสกุลนำโทรศัพท์มาให้สแกนใบหน้าที่บ้านพักใน จ.สระแก้ว เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินอยู่ประมาณ 2–3 ครั้ง ได้รับค่าจ้าง 12,000 บาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย ปัจจุบันมิจฉาชีพยังคงมีการโทรหาผู้เสียหายและวิดีโอคอลแต่งชุดตำรวจ โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ , DSI, ธนาคาร, ค่ายโทรศัพท์ รวมถึงบริษัทขนส่งต่าง ๆ โดยจะบอกข้อมูลของเราถูกต้องทั้งชื่อ-สกุล เลขบัตรประชาชน เพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ก่อนจะหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน ดังนั้น ถ้ามีเบอร์แปลก ๆ โทรมา ควรตัดสายทิ้ง และปรึกษาคนใกล้ตัว หรือสถานีตำรวจใกล้บ้าน






