- 26 มิ.ย. 2568
เจาะชีวิต บุน รานี เบื้องหลังอำนาจและการเมืองของกัมพูชา มีสตรีผู้หนึ่งที่ยืนหยัดเคียงข้าง สมเด็จฮุน เซน มาตลอด
เจาะลึกชีวิต ประวัติ “บุน รานี” ความภักดีที่ค้ำบัลลังก์ ฮุน เซน และอิทธิพลที่โลกไม่เคยรู้
เบื้องหลังอำนาจและการเมืองของกัมพูชา มีสตรีผู้หนึ่งที่ยืนหยัดเคียงข้าง สมเด็จฮุน เซน มาตลอด นั่นคือ สมเด็จกิตติพฤฒบัณฑิต บุน รานี ฮุนเซน เธอไม่ใช่เพียงภรรยาและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง แต่เป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาทและอิทธิพลอย่างลึกซึ้งในการค้ำจุนอำนาจทางการเมืองของสามี จนบางแง่มุมอาจยังไม่เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง
สมเด็จกิตติพฤฒบัณฑิต บุน รานี ฮุนเซน คือสตรีผู้ทรงอิทธิพลและเป็นผู้ค้ำบัลลังก์สำคัญเคียงข้าง สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา
เธอเกิดในครอบครัวเชื้อสายจีน-เขมรเมื่อปี 2497 เข้าร่วมแนวร่วมกู้ชาติ และได้พบรักกับ ฮุน เซน ในปี 2517 ทั้งคู่สมรสกันในปี 2519 และมีบุตรธิดา 5 คน รวมถึง พลเอก ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
บุน รานี ไม่ได้เป็นเพียงสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง แต่ยังเป็น ประธานกาชาดกัมพูชา ตั้งแต่ปี 2541 เรื่องราวชีวิตที่ต้องพลัดพรากจากสามีขณะตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง ได้รับการถ่ายทอดเป็นซีรีส์ดัง "ลูกชายใต้เดือนเพ็ญ" ตอกย้ำบทบาทอันแข็งแกร่งและภักดีของเธอในประวัติศาสตร์กัมพูชา
จากชาวนาสู่สมเด็จหญิง
บุน รานี เกิดในครอบครัวเชื้อสายจีน-เขมร เธอได้รับอิทธิพลจากปู่ย่าตายายที่สอนขนบธรรมเนียมแบบเขมร ก่อนสงครามกลางเมืองเธอไปเรียนโดยเดินลุยน้ำเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงทุกวัน
หลังการรัฐประหารปี 2513 และการถอดสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ประมุขแห่งรัฐกัมพูชา เธอได้เข้าร่วมแนวร่วมประชาชาติของกัมพูชาและเลือกสายงานสาธารณสุข
ในปี 2517 เธอได้พบกับฮุน เซน ซึ่งในขณะนั้นเป็นผู้บัญชาการฝ่ายเขมรแดง ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 2519 ในพิธีแต่งงานหมู่ที่จัดขึ้นโดยพรรค และมีลูกชายคนแรกซึ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นานก็เสียชีวิต
หลังสมรสไม่นาน ทั้งสองต้องพลัดพราก เพราะ ฮุน เซน หนีออกจากเขมรแดงไปร่วมกองกำลังต่อต้านเขมรแดงในเวียดนาม ขณะที่บุน รานี กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในซีรีส์กัมพูชาชื่อดัง "ลูกชายใต้เดือนเพ็ญ" (The Son Under the Full Moon) ซึ่งอิงจากชีวิตจริงของทั้งคู่ บุน รานี คลอดลูกชายในคืนวันเพ็ญโดยไร้สามีเคียงข้าง
ชื่อและตำแหน่งทางการ
บุน รานี เป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของกัมพูชา ในช่วงที่ ฮุน เซน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี (พ.ศ. 2528–2536, 2536–2566)
ในปี 2556 พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหมุนี พระราชทานตำแหน่ง สมเด็จกิตติพฤฒบัณฑิต หรือ สมเด็จกิตติวุฒิบัณฑิต (Samdech Kittipritbandit) ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของสตรีในกัมพูชา สำหรับ ความพยายามอันไม่รู้เหน็ดเหนื่อยในการปฏิบัติภารกิจเพื่อมนุษยธรรม
แม้โดยทางการควรเรียกว่า “สมเด็จ” แต่ในหมู่ประชาชนเธอยังเป็นที่รู้จักในชื่อ ล๊กจุมเตียวธม แปลว่า ท่านผู้หญิงใหญ่
ก่อนหน้านั้น เคยได้รับมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันการศึกษาชั้นนำหลายแห่ง ทั้งใน และต่างประเทศ รวมทั้งจากสถาบันอุดมศึกษา จำนวน 3 แห่ง ในสาธารณรัฐเกาหลี เมื่อปี 2552 และ 2553 ด้วย
บทบาทในการเมืองกัมพูชา
หลังสงครามสิ้นสุดลงในปี 2522 บุน รานีเริ่มมีบทบาทในการฟื้นฟูสังคม โดยเฉพาะการจัดตั้งสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า โรงเรียน และโครงการช่วยเหลือผู้ยากไร้
ในปี 2537 เธอได้รับเลือกเป็นรองประธานกาชาดกัมพูชา และก้าวขึ้นเป็น ประธานกาชาดกัมพูชา ในปี 2541 ภายหลังสามีรวมอำนาจเต็ม รัฐบาลของฮุน เซนถูกมองว่าเป็นเผด็จการ แต่เธอยังคงดำรงบทบาทสำคัญในงานสังคม
ปัจจุบัน บุน รานี ดำรงตำแหน่ง ประธานที่ปรึกษานายกสภากาชาดกัมพูชา และทำงานใกล้ชิดกับลูกสะใภ้ เพชร จันมุนี ภริยาของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต
สื่อกัมพูชาและต่างประเทศเคยรายงานว่า บุน รานี คือผู้สร้างบารมีให้กับสามี ผ่านการสร้างสิ่งปลูกสร้าง และโครงการสาธารณะต่าง ๆ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า บุน รานี เป็นหนึ่งในผู้ถือครองธุรกิจสัมปทานขนาดใหญ่ของตระกูลฮุน และมีการถ่ายโอนธุรกิจในรูปแบบนอมินี มูลค่าหลายหมื่นล้านบาทไปยังทายาททั้ง 5 คนของครอบครัว
ขอบคุณที่มา : บุน รานี , sanook






