รวบมือปืนพระกาฬ หยุดแผนสังหารว่าที่ผู้สมัครชิงนายก อบต.พิจิตร

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมมือปืนพระกาฬ วัย 70 ปี หยุดแผนลอบสังหารว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พื้นที่อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร โดยสามารถรวบตัวได้ที่บ้านพักในจังหวัดสมุทรสาคร หลังสืบทราบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีฆาตกรรม และเตรียมลงมือก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง

 

 

 

 

ผู้ต้องหาคือ นายยุทธภูมิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี ถูกจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดพิจิตร ที่ 116/2568 ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ในข้อหา "ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และความผิดต่อชีวิต" โดยชุดจับกุมประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม และเจ้าหน้าที่จากกองกำกับการ 1 ภายใต้กองบัญชาการสอบสวนกลาง

จากการสืบสวนพบว่า นายยุทธภูมิ เป็นอดีตนักโทษในคดียาเสพติด ซึ่งเคยต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตจากการลักลอบขนยาบ้าหลายแสนเม็ดเมื่อช่วงปี 2540 และเพิ่งพ้นโทษเมื่อปี 2560 นอกจากนี้ยังมีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมหลายคดีในพื้นที่จังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะการลอบยิงผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่ง แต่สามารถต่อสู้คดีจนรอดพ้นความผิด

 

 

พฤติกรรมของนายยุทธภูมิ ถูกชาวบ้านระบุว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ มีบุคลิกดุดันและเคยข่มขู่คู่แข่งทางการเมืองหลายราย โดยเฉพาะผู้ที่ลงสมัครแข่งขันกับกลุ่มเครือญาติของตน ซึ่งมีบทบาทในระดับท้องถิ่นในพื้นที่ อ.ตะพานหิน

ในคดีล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้รับเบาะแสว่า นายยุทธภูมิ มีแผนลอบสังหารว่าที่ผู้สมัครนายก อบต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญทางการเมือง หลังจากมีปากเสียงกันในงานบวชที่วัดไผ่หลวง ต่อมาไม่กี่วันพบศพนายวันชัย (ขอสงวนนามสกุล) ถูกยิงเสียชีวิตในทุ่งนาหมู่ 2 ต.ไผ่หลวง
 

 

จากการตรวจสอบและสืบสวนของเจ้าหน้าที่ พบหลักฐานชิ้นสำคัญเป็นอาวุธปืน Colt ขนาด .38 Super ที่ใช้ก่อเหตุ ถูกซ่อนอยู่ในบ่อน้ำหลังบ้านของนายยุทธภูมิ ซึ่งถูกตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมในสำนวนคดี

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำข้อมูลพฤติกรรมของผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์พฤติกรรมศาสตร์โดย ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ (ศปอร.ตร.) พบว่ามีความเป็นไปได้สูงที่นายยุทธภูมิจะลงมืออีกครั้ง จึงได้รับคำสั่งให้จับกุมตัวให้ได้โดยเร็ว

การติดตามจับกุมเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากนายยุทธภูมิใช้เครือข่ายผู้มีอิทธิพลและอดีตกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดช่วยเหลือในการหลบหนี โดยเคยกบดานในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ก่อนย้ายกลับขึ้นมาทางภาคกลาง จนพบว่าแอบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักแห่งหนึ่งในตำบลพันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร

 

 

ตำรวจจึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรสาคร และวางแผนเข้าจับกุมอย่างรัดกุม จนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้โดยไม่มีเหตุรุนแรง พร้อมนำตัวส่ง สภ.โคกขาม เพื่อทำบันทึกจับกุม ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายที่ศาลจังหวัดพิจิตรต่อไป

เบื้องต้น นายยุทธภูมิ ให้การรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล