รู้แล้ว "ฝนราชการ" ฝนที่มักตกหลังเลิกงาน แท้จริง เกิดจากอะไร

อ.เจษฎา เสนอจัดงานลูกเสือในร่มแทนกลางแจ้ง หลังเด็กเปียกฝนหนัก พร้อมอธิบายหลักวิทยาศาสตร์ “ฝนราชการ” ทำไมฝนตกช่วงเย็นตรงเวลาเลิกงานทุกปี

"อ.เจษฎ์ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความเปิดข้อ โดยได้ระบุว่า

"งานลูกเสือปีหน้า ควรย้ายไปจัดในร่ม หลบฝนราชการหลังเลิกงาน"

มีรายงานข่าวว่า เมื่อเย็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ได้มีการจัดพิธีทบทวนคำปฏิญาณและสวนสนามของลูกเสือ เนื่องในวันคล้าย "วันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ" ภายใต้การจัดงานของสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ณ สนามศุภชลาศัยกรีฑาสถานแห่งชาติ

รู้แล้ว ฝนราชการ ฝนที่มักตกหลังเลิกงาน แท้จริง เกิดจากอะไร

โดยมีนักเรียนจากหลายโรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรม ท่ามกลางฝนตกหนักยังกับพายุ ทำให้เด็กจำนวนมากที่มาเดินสวนสนาม ต้องเปียกโชกกันไปหมด จนมีที่ไม่สบาย เป็นลม กันตามข่าว

ประเด็นที่น่าคิดคือ วันลูกเสือแห่งชาตินั้นกำหนดเป็นวันที่ 1 กรกฏาคม ของทุกปี ตรงกับช่วง "หน้าฝน" มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะมี "ฝนราชการ" ตกลงมาในงานสวนสนาม ซึ่งเป็นช่วงตอนเย็น ๆ หลังเลิกงานและมักจะมีฝนตกโดยเฉพาะในพื้นที่เมืองใหญ่ อย่างกรุงเทพมหานคร

เลยอยากขอร้องให้ทางผู้จัด พิจารณาทบทวนการจัดงานในปีหน้าๆ ต่อไป ให้จัดในอาคารในร่มดีกว่าครับ อย่าฝืนจัดกลางแจ้งให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพของเด็กๆ ที่มาร่วมงานกันเลย .. ถึงเป็นในร่ม จัดดีๆ ให้อลังการก็ทำได้ครับ

ขอเอาเกร็ดความรู้เรื่อง "ฝนราชการ ฝนหลังเลิกงาน" ที่เคยเขียนไว้ มาเผยแพร่อีกครั้งนะครับ

------------------
(รีโพสต์) "ฝนราชการ ฝนตกหลังเลิกงาน เกิดจากอะไรกันแน่?

เมื่อวานนักข่าวโทรศัพท์มาขอข้อมูล เกี่ยวกับกรณีที่ช่วงนี้ ฝนมักจะตกหนักในช่วงตอนเย็น ตอนใกล้จะเลิกทำงาน ทำเอากลับบ้านลำบากแทบทุกวัน จนทำให้มีคนเรียกล้อ ว่าเป็น "ฝนราชการ(เลิกงาน)” กัน ... มันเป็นเรื่องบังเอิญ หรือว่าเป็นเรื่องที่อธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์ครับ ?

เรื่อง "ฝนราชการ" นี้มีข้อมูลที่เคยอธิบายไว้โดยผู้เชี่ยวชาญ ว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงตามธรรมชาติ ที่ในฤดูฝนของประเทศไทยเรา มีความเหมาะสมของลมฟ้าอากาศ จนทำให้ฝนมักจะตกตอนช่วงเย็นพอดี ไม่ได้เป็นเหตุบังเอิญ

ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ นักวิชาการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) ผู้ก่อตั้งเพจ “ชมรมคนรักมวลเมฆ” และเจ้าของผลงานหนังสือเรื่อง “รู้ทัน ฝนฟ้า อากาศ” อธิบายว่า

- ในเวลากลางวัน พื้นดินได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ ทำให้อากาศผิวพื้นร้อน และลอยตัวขึ้น

- เมื่ออากาศลอยตัวสูงขึ้น ก็จะเย็นตัวลงตามกฎ “ยิ่งสูงยิ่งหนาว” หากอากาศเย็นลง จนกระทั่งถึงอุณหภูมิที่เรียกว่า “จุดน้ำค้าง” ก็จะทำให้ไอน้ำกลายเป็นหยดน้ำเล็กๆ จำนวนมาก ถ้ามองภาพรวมก็คือ “เมฆ” นั่นเอง

- ถ้าหยดน้ำในเมฆ เติบโตมีขนาดใหญ่มากขึ้น จนถึงจุดหนึ่งซึ่งหนักเกินไป จนกระแสลมพยุงเอาไว้ไม่ไหว ก็จะตกลงมาเป็นฝน

- “เมฆฝน” จะเป็นเมฆก้อนใหญ่ที่เกิดจากการสะสมของเมฆก้อนเล็กๆ ตั้งแต่ในช่วงเช้า ซึ่งปกติ ช่วงเช้าเรามักจะไม่เจอฝน เพราะเมฆมันก้อนเล็ก (ยกเว้นมีพายุ หรือดีเปรสชั่น หรืออะไรก็แล้วแต่ มากระทบ ก็อาจทำให้ช่วงเช้ามีฝนตกได้)

- ที่เมฆกลายเป็นก้อนใหญ่ได้ ก็เป็นเพราะมี “ลมพัดสอบ” หรือลมที่เกิดจากการเบียดตัวเข้าหากันของลม 2 ฝ่ายบริเวณใกล้พื้นโลก ทำให้อากาศบริเวณแนวเบียดตัว ลอยขึ้นเบื้องบน และมักจะมีเมฆฝนเกิดขึ้น .. เมื่อลมพัดสอบหอบเมฆฝนมารวมกัน มันก็เลยใหญ่

- นอกจากลมแล้ว ต้องมีความชื้น และความร้อน จากพื้นล่างเข้ามาช่วยด้วย ฝนถึงจะตกลงมา

- และที่สำคัญ “ยอดเมฆ” ต้องสูงมากพอ .. ฐานเมฆจะนับจากพื้นดินขึ้นไปราว 1 กิโลเมตร และ ถ้านับจากฐานเมฆ ขึ้นไปถึงยอดเมฆ แล้วมีความสูงแค่ 2 กิโลเมตร โอกาสเกิดฝนจะยาก / ถ้าสูงจาก 2 ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 7 กิโลเมตร จะมีฝนแต่ไม่มีฟ้าผ่า / แต่ถ้าสูงเกิน 7 กิโลเมตรขึ้นไป ส่วนใหญ่จะมีทั้งฝนทั้งฟ้าผ่าด้วย

- ที่ทำไมฝนฟ้าบ้านเรา มันชอบตกมาตอนเลิกงาน “สาเหตุ” เป็นเพราะการที่เมฆจะสะสมความสูงจาก 2 ไปถึง 7 กิโลเมตร มันต้องใช้เวลา นับตั้งแต่เช้ามา กว่าจะใหญ่และสูงพอ ก็ถึงช่วงเย็นพอดี ทีนี้ฝนจะเกิดได้ ต้องมีความชื้น และความร้อนเข้ามากระตุ้นด้วย ซึ่งปกติบ้านเรา ช่วงบ่ายแก่ๆ 3-4 โมงเย็น อากาศจะร้อนจัดใช้ได้ เมื่อเมฆใหญ่พอมาเจออากาศร้อน มันก็กระตุ้นให้เกิดฝนตกลงมาช่วงเลิกงานพอดี

- แนวคิดข้างต้น อาจใช้ได้เฉพาะหน้าฝนเท่านั้น จะไปใช้กับช่วงหน้าหนาวก็ไม่น่าจะเข้ากัน เพราะมีอย่างอื่นประกอบด้วย ทั้งความชื้น ทิศทางลม เช่น ถ้าลมไม่มา เมฆไม่ใหญ่ โอกาสจะมีฝนตกก็ยาก

#สรุปคือ ที่ฝนชอบตกตอนเย็นๆ ใกล้เวลาเลิกงานกลับบ้าน สาเหตุเพราะในช่วงหน้าฝน มีไอน้ำในอากาศเยอะ ความชื้นสัมพัทธ์สูง พออากาศโดนแดดนานเข้าจากเช้า-สาย-เที่ยง-บ่าย ไอน้ำในอากาศซึ่งร้อนขึ้น ก็จะฟิตจัดหรือมีพลังงานเยอะ ลอยสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วกลั่นตัวเป็นหยดน้ำเล็กๆ จำนวนมาก ก่อม็อบกลายเป็นเมฆก้อนหนักขึ้น จนถึงจุดหนึ่งก็หนักเกินไป ตกลงมาเป็นฝน