- 02 ก.ค. 2568
ใครบ้างควรเลี่ยงผักคะน้า แม้คะน้าจะเป็นผักมหัศจรรย์เปี่ยมประโยชน์ แต่ก็มีบางกลุ่มที่ควรระมัดระวังในการบริโภค เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
“ใครบ้างควรเลี่ยงผักคะน้า” ผักคะน้าบ้านเรามีประโยชน์มากก็จริง แต่มีคนบางกลุ่มที่ควรระวัง คะน้า จัดเป็นผักใบเขียวยอดนิยมในตระกูลกะหล่ำ ที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศแถบเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นไทย จีน ฮ่องกง หรือมาเลเซีย ผักชนิดนี้ไม่ได้มีดีแค่รสชาติอร่อย แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายมากมาย ทั้ง แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม วิตามินเอ และ วิตามินเค
ด้วยคุณประโยชน์เหล่านี้ คะน้าจึงเป็นผักที่ช่วย บำรุงกระดูก ให้แข็งแรง เพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น และที่สำคัญยังอาจมีส่วนช่วย ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และ โรคมะเร็ง ได้อีกด้วย นับเป็นผักมหัศจรรย์ที่ควรมีติดตู้เย็นไว้เลย
คุณค่าทางโภชนาการของผักคะน้า
ผักคะน้า 1 ถ้วย อาจให้พลังงาน 63 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรต 10.73 กรัม ที่ประกอบด้วยไฟเบอร์ 7.6 กรัม น้ำตาลน้อยกว่า 1 กรัม และสารอาหารอื่น ๆ ดังนี้
- แคลเซียม 268 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 222 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 61 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 40 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 34.6 มิลลิกรัม
- โซเดียม 28 มิลลิกรัม
- เหล็ก 2.15 มิลลิกรัม
- วิตามินอี 1.67 มิลลิกรัม
- วิตามินเค 772.5 ไมโครกรัม
- วิตามินเอ 722 ไมโครกรัม
- โฟเลต 30 ไมโครกรัม
ข้อควรระวังการบริโภคผักคะน้า
การรับประทานผักคะน้าอาจให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่อาจมีข้อควรระวังสำหรับผู้ที่กำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น วาร์ฟาริน (Warfarin) เนื่องจากผักคะน้ามีวิตามินเคที่อาจลดประสิทธิภาพของยากลุ่มนี้ลง ดังนั้น จึงควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรก่อนบริโภค
นอกจากนี้ ผักคะน้ายังเป็นแหล่งของไฟเบอร์ ที่ร่างกายอาจต้องใช้เวลานานในการย่อย หากรับประทานผักคะน้ามากเกินไปและรับประทานรวดเร็วเกินไปก็อาจส่งผลให้มีก๊าซในลำไส้และท้องอืดได้






