- 03 ก.ค. 2568
ตราดไม่ใช่แค่จังหวัดริมทะเล แต่คือจุดยุทธศาสตร์แห่งความมั่นคงของไทย ที่เพื่อนบ้านยังคงอาลัยอาวรณ์ และไม่เคยลืมอดีตดินแดนนี้
ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ โพสต์ข้อความล่าสุดผ่านเฟซบุ๊ก ทนายคู่ใจ ระบุ
ทำไม “เขมร” ถึงอยากได้ จังหวัดตราด ขนาดนั้น?
ไม่ใช่แค่เรื่อง “พื้นที่” แต่มันคือ หัวใจ ของการครอบครองทั้งทางยุทธศาสตร์ เศรษฐกิจ และจิตวิญญาณของชาติ
ในขณะที่เราอาจมอง “จังหวัดตราด” เป็นเพียงเมืองชายฝั่งเล็ก ๆ ริมทะเลตะวันออก แต่รู้หรือไม่ว่า ที่ดินแผ่นนี้เคยเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ “เขมร” หรือ กัมพูชา เคยมีสายตาจับจ้องมานานนับศตวรรษ…
ย้อนประวัติศาสตร์: ตราดเคยตกอยู่ภายใต้การครอบครองของฝรั่งเศส
ก่อนปี 2449 (ค.ศ. 1906) จังหวัดตราดและด่านซ้ายเคยตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส โดยฝรั่งเศสยื่นข้อเสนอคืนดินแดนให้ไทย แลกกับดินแดนเสียมราฐและพระตะบอง ที่ปัจจุบันคือเขตกัมพูชา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนในฝั่งเขมรยังมี ความรู้สึกค้างคาใจ กับแผ่นดินนี้
ทำไมตราดถึงมีมูลค่าทางยุทธศาสตร์สูงขนาดนั้น?
เพราะตราดไม่ได้มีแค่ “ทะเล” แต่คือแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และ เป็นทางออกสู่โลก ของภาคตะวันออก
• มีชายฝั่งทะเลยาวถึง 165 กิโลเมตร – มีจุดขึ้นเรือสินค้า จุดตั้งท่าเรือพาณิชย์ จุดพักเรือประมงระดับประเทศ
• หมู่เกาะสวยที่สุดของไทย – ทั้งเกาะช้าง เกาะกูด เกาะหมาก ที่ติดอันดับความงามระดับโลก
• ทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์มาก – ทั้งป่าชายเลน น้ำตก ภูเขา และซาฟารีบนเกาะที่มีกวางเนื้อทราย ซึ่งเชื่อกันว่าสูญพันธุ์จากกัมพูชาแล้ว
• ความได้เปรียบทางทะเล – ถ้ากัมพูชามีตราดในครอบครอง จะกลายเป็นรัฐที่มีเส้นทางทะเลสมบูรณ์ ไม่ต้องพึ่งเวียดนามหรือไทย
มุมจิตวิทยา: ทำไมคนเขมรถึง “อิน” กับตราดมาก
ในอดีตมีการสื่อสารภายในกัมพูชา ที่ยังพูดถึงตราดว่าเป็น “ดินแดนที่เคยเป็นของเขมร” คล้ายกับบางประเทศที่พูดถึงแคว้นที่สูญเสียให้เพื่อนบ้าน การสร้าง “อัตลักษณ์ร่วม” กับอดีตดินแดน เป็นวิธีที่รัฐใช้ในการปลุกกระแสรักชาติ และต่อต้านไทยในบางช่วงเวลา
ตราดไม่ใช่แค่จังหวัดชายแดน แต่คือ “กำแพงกันเขมร”
ในมุมยุทธศาสตร์ ตราดคือ โล่ตะวันออก ที่ปกป้องภาคกลางของไทย ถ้าไม่มีตราด ไทยจะเปิดช่องให้กัมพูชาเข้าถึงใจกลางประเทศได้ง่ายขึ้น หากเกิดเหตุการณ์ขัดแย้งในอนาคต
⸻
สรุป: ตราดคืออัญมณีของสยาม ที่ไม่ควรมองข้าม
ไม่ใช่แค่สวย ไม่ใช่แค่น่าท่องเที่ยว แต่คือหัวใจของความมั่นคงไทยในฝั่งตะวันออก และเป็นดินแดนที่เพื่อนบ้านยังคง “อาลัยอาวรณ์” ถึงจนทุกวันนี้






