ไรเดอร์สุดช้ำ ถูกชนขาหัก ไร้เยียวยา ต้องใช้ไม้ค้ำวิ่งส่งอาหาร

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ที่บริเวณด้านหน้าแดนเนรมิตเก่า ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีตสารวัตรทหารอากาศ ได้พานายภานุพันธ์ หลังจิ หรือ นายอารีฟ อายุ 25 ปี อาชีพไรเดอร์ส่งอาหาร พร้อมด้วย น.ส.จุฑามาศ ภรรยา เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อขอความเป็นธรรม หลังนายอารีฟประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์พุ่งชนจนขาหัก ต้องดามเหล็ก แต่กลับไม่ได้รับการเยียวยาจากคู่กรณี ซ้ำคดียังไม่มีความคืบหน้า ทำให้ปัจจุบันนายอารีฟต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันในการขับขี่จักรยานยนต์เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว

 

 

นายอารีฟ เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 16.00 น. ขณะกำลังขับรถไปรับออเดอร์ด้วยความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อให้ทันเวลาส่งมอบ แต่จู่ ๆ มีรถฟอร์จูนเนอร์ขับออกมาโดยไม่ระมัดระวังทางตรง พุ่งชนรถจักรยานยนต์ของเขาอย่างแรง ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาหักต้องเข้ารับการผ่าตัดดามเหล็ก อย่างไรก็ตาม คู่กรณีกลับไม่เคยมาเยี่ยม หรือติดต่อแสดงความรับผิดชอบใด ๆ

นายอารีฟระบุว่า เขาต้องเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง ด้วยตนเองทั้งที่ยังบาดเจ็บหนัก และจนถึงขณะนี้ คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า เจ้าหน้าที่เพียงบอกให้ “รอ” โดยไม่มีการดำเนินการชัดเจน

 

 

“ตอนนี้ผมทำงานไม่ได้ ภรรยาก็ป่วยทำงานไม่ได้เช่นกัน ผมเป็นเสาหลักของครอบครัว ลูกเมียก็ลำบากมาก สงสารลูกมาก เลยต้องออกมาร้องเรียนผ่านจ่าคิงส์ เพื่อขอความเป็นธรรมให้ครอบครัว” นายอารีฟกล่าวด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง

“ผมต้องเสียขา ต้องใส่เหล็ก เสียสวัสดิการหลายอย่าง ตอนนี้ยังต้องทำงานส่งอาหารทั้งที่ใช้ไม้เท้าสองข้าง มันลำบากมาก แต่ก็ต้องทำ”

นายอารีฟเผยเพิ่มเติมว่า คู่กรณีเคยส่งแฟนมาขอไกล่เกลี่ยเพียงครั้งเดียว แต่ไม่มีข้อเสนอการเยียวยาใด ๆ และก็เงียบหายไป ไม่มีการติดต่อกลับมาอีกเลย

ด้าน น.ส.จุฑามาศ ภรรยา กล่าวว่า เธออยากให้คู่กรณีเห็นใจสามี ซึ่งต้องออกไปทำงานส่งอาหารทั้งที่ขายังดามเหล็กอยู่ เธอไม่ได้ต้องการเพียงเงิน แต่ขอแค่ “ความยุติธรรม”

 

 

“แค่มาเยี่ยมที่โรงพยาบาลก็ไม่เคยมา ต้องทำเองทุกอย่าง ลำบากยืมรถเพื่อนพาไปหาหมอ” เธอกล่าวอย่างผิดหวัง พร้อมระบุว่าเจ้าหน้าที่ร้อยเวรที่รับแจ้งความก็ไม่ให้ความช่วยเหลือ โดยอ้างว่างานยุ่ง จนต้องโทรศัพท์ไปหาผู้กำกับเพื่อขอให้กำชับจึงมีความคืบหน้า

 

 

ล่าสุดเมื่อวานนี้ ร้อยเวรได้โทรศัพท์มาแจ้งว่ากำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และแจ้งว่ามีกล้องวงจรปิดให้มาเอาเอง ส่วนผลตรวจทางการแพทย์ที่ขอไว้เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนก็ยังไม่ได้รับ พอสอบถามบ่อยเข้ากลับถูกตำหนิว่า “โทรมากเกินไป”

“สิ่งเดียวที่ครอบครัวเราต้องการคือการเยียวยา ถ้าสามีหนูตาย พี่ก็จะไม่ช่วยอะไรเลยเหรอ จะปล่อยให้เขาตายตรงนั้นเหรอ?” น.ส.จุฑามาศกล่าวด้วยน้ำตาคลอ พร้อมยืนยันว่าไม่มีหนทางอื่น จึงมาร้องเรียนที่กองปราบฯ

ด้านจ่าคิงส์ สะพานใหม่ กล่าวทิ้งท้ายว่า วันนี้จะพาผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. เพื่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย พร้อมประสานไปยัง สภ.คลองหลวง ให้เรียกตัวคู่กรณีมาเจรจา และดำเนินการรับผิดชอบโดยเร็ว พร้อมฝากถึงเจ้าหน้าที่ให้เร่งติดตามคดี เพื่อเยียวยาผู้เสียหายอย่างเป็นธรรม