บุกจับ 6 เภสัชเก๊ จบมัธยม กระจายยาแก้ไอให้วัยรุ่นสาย 4x100

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม อย. สสจ.ปทุมธานี ค้น 6 ร้านยามหาภัย รวบ 6 เภสัชเก๊ เครือข่ายกระจายยาแก้ไอให้วัยรุ่นสาย 4x100

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ปฏิบัติการจับกุมกวาดล้างเครือข่ายผู้จำหน่ายยาแก้ไอในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ผู้จำหน่ายยาที่ไม่ใช่เภสัชกร (เภสัชกรเก๊) จำนวน 6 ราย พบเปิดเป็นร้านยาเพื่อเป็นเครือข่ายกระจายยาแก้ไอให้วัยรุ่นใช้ผสมน้ำต้มใบกระท่อม

 

บุกจับ 6 เภสัชเก๊ จบมัธยม กระจายยาแก้ไอให้วัยรุ่นสาย 4x100

บุกจับ 6 เภสัชเก๊ จบมัธยม กระจายยาแก้ไอให้วัยรุ่นสาย 4x100

 

พฤติการณ์สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้จับกุมเครือข่ายผู้ผลิตยาแก้ไอปลอมและร้านขายยาที่จำหน่ายยาแก้ไอให้กลุ่มวัยรุ่นไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ในหลายพื้นที่ก่อนหน้านี้ โดยนำไปผสมน้ำต้มใบกระท่อมดื่มเพื่อสร้างความมึนเมา

โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่า ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี มีร้านยาที่เปิดในลักษณะเครือข่ายหลายร้าน ซึ่งมีเจตนาจำหน่ายยาแก้ไอโดยเฉพาะ โดยมีการอำพรางโดยวางยาประเภทอื่นไว้เพียงเล็กน้อย และบางร้านจำหน่ายเฉพาะยาแก้ไอโดยไม่มียาประเภทอื่นจำหน่ายภายในร้านเลย

 

บุกจับ 6 เภสัชเก๊ จบมัธยม กระจายยาแก้ไอให้วัยรุ่นสาย 4x100

 

จนเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปทุมธานี ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบร้านขายยาในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จำนวน 6 ร้าน ได้แก่

1. ร้านยาแห่งหนึ่ง ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จับกุมตัว น.ส.ธิดารัตน์ฯ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้รับจ้างขายยาให้ร้านดังกล่าว จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ข้อหา “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและไม่มีใบอนุญาต”

2. ร้านยาแห่งหนึ่ง ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จับกุมตัว น.ส.ทาริณีฯ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้รับจ้างขายยาให้ร้านดังกล่าว จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ข้อหา “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและไม่มีใบอนุญาต”

3. ร้านยาแห่งหนึ่ง ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จับกุมตัว นายสิทธิโชคฯ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้รับจ้างขายยาให้ร้านดังกล่าว จบการศึกษาประถมศึกษาปีที่ 6 ข้อหา “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและไม่มีใบอนุญาต”

บุกจับ 6 เภสัชเก๊ จบมัธยม กระจายยาแก้ไอให้วัยรุ่นสาย 4x100

 

4. ร้านยาแห่งหนึ่ง ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จับกุมตัว น.ส.ศรสวรรค์ฯ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้รับจ้างขายยาให้ร้านดังกล่าว จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ข้อหา “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “มิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม หรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” โดยร้านดังกล่าวมิใช่สถานที่ที่ได้รับอนุญาตให้ขายยา

5. ร้านยาแห่งหนึ่ง ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จับกุมตัว น.ส.จรรยาฯ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้รับจ้างขายยาให้ร้านดังกล่าว จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ข้อหา “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและไม่มีใบอนุญาต”

 

บุกจับ 6 เภสัชเก๊ จบมัธยม กระจายยาแก้ไอให้วัยรุ่นสาย 4x100

 

6. ร้านยาแห่งหนึ่ง ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จับกุมตัว น.ส.กมลภัคฯ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้รับจ้างขายยาให้ร้านดังกล่าว จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ข้อหา “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “มิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม หรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” โดยร้านดังกล่าวมิใช่สถานที่ที่ได้รับอนุญาตให้ขายยา

จากการสืบสวนขยายผล พบว่าร้านที่เข้าตรวจทั้ง 6 ร้าน เป็นร้านเครือข่ายที่มีผู้รับอนุญาตเป็นคนนามสกุลเดียวกัน โดยสองในหกเป็นร้านที่ไม่มีใบอนุญาต ร้านเหล่านี้มุ่งเปิดร้านเพื่อทำการขายยาน้ำแก้แพ้ แก้ไอ หรือยาเขียวเหลืองเพื่อนำไปผสมเป็นสูตร 4x100 นอกจากนี้ยังพบอีกว่าผู้รับอนุญาตรายนี้เคยถูก อย. สั่งพักใช้ใบอนุญาต และได้ขอยกเลิกใบอนุญาต จากนั้นย้ายร้านมาเปิดแถวปทุมธานีหลายร้าน พอมีการตรวจจับก็มาขอยกเลิกใบและไปขอเปิดร้านใหม่

 

บุกจับ 6 เภสัชเก๊ จบมัธยม กระจายยาแก้ไอให้วัยรุ่นสาย 4x100

 

รวมตรวจค้น 6 จุด ตรวจยึดของกลาง รวมจำนวนทั้งสิ้น 123 รายการ โดยเป็นยาแก้แพ้ แก้ไอ 10,525 ขวด, ยาเขียวเหลือง 57,960 เม็ด มูลค่ากว่า 844,260 บาท จับกุมผู้ต้องหาซึ่งไม่ใช่เภสัชกรและไม่มีความรู้ด้านเภสัชกรรม จำนวน 6 ราย โดยผู้ต้องหาจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1 ราย, มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 5 ราย

 

บุกจับ 6 เภสัชเก๊ จบมัธยม กระจายยาแก้ไอให้วัยรุ่นสาย 4x100

 

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม

พระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2537 มาตรา 28 ฐาน “เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม หรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510

ฐาน “ขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท

ฐาน “ขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่” ระวางโทษปรับ 1,000 - 5,000 บาท

สำหรับผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ (เภสัชกร) มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาทำการ รวมถึงไม่ควบคุมการขายยา ควบคุมการส่งมอบยาอันตราย และควบคุมการทำบัญชีซื้อและขายยาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง” ระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท

ภก.เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ในการตรวจจับครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการตรวจเฝ้าระวังร้านขายยากลุ่มเสี่ยงที่มีพฤติการณ์ขายยาน้ำกลุ่มแก้แพ้ แก้ไอให้กับวัยรุ่น กลุ่มเยาวชน โดยนิยมเปิดร้านในแหล่งที่เป็นย่านการศึกษาหรือในชุมชน ซึ่งมีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม และมักเปิดในช่วงเวลากลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ โดย อย. ได้ร่วมกับ กองกำกับการ 4 บก.ปคบ. ในการกวาดล้างร้านขายยาเครือข่าย ที่มีการขอใบอนุญาตขายยาเพื่อบังหน้า มีการขอใบอนุญาตหลายใบโดยบุคคลเดียวกัน เพื่อหวังโควตาการรับซื้อยาน้ำแก้ไอจากโรงงานผู้ผลิต โดยลักษณะของร้านเหล่านี้ ภายในร้านมีรายการยาอื่นอยู่น้อยรายการ และมีการซุกซ่อนยาแก้ไออยู่ในลิ้นชัก และตู้ทึบ หรือเก็บไว้หลังร้าน และคนขายยาไม่ใช่เภสัชกร

นอกจากนี้ ยังพบว่ายาแก้ไอที่ตรวจพบในร้านเหล่านี้เป็นยายี่ห้อเดียวกัน ซึ่งเป็นที่นิยมนำไปใช้ในทางที่ผิด คือ ใช้ผสมในสูตร 4x100

ที่ผ่านมา อย. ได้เฝ้าระวังกลุ่มยาน้ำแก้ไอ ซึ่งเป็นยาอันตราย ที่ต้องควบคุมการผลิตและขายให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยแหล่งที่จะขายยาดังกล่าวได้ต้องเป็นร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และผู้จ่ายยาต้องเป็นเภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการของร้านเท่านั้น นอกจากนี้ อย. ได้มีประกาศให้ผู้รับอนุญาตผลิตและขายยาดังกล่าวไปยังร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตไม่เกินเดือนละ 300 ขวด ต่อแห่ง และร้านขายปลีกสามารถขายให้แก่ประชาชนได้ครั้งละไม่เกิน 3 ขวด

สำหรับร้านที่ตรวจพบพฤติการณ์ขายยาอันตรายนำไปใช้ในทางที่ผิดนั้น นอกจากผู้ขายจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรมแล้ว ผู้รับอนุญาตจะต้องถูกพักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 120 วัน อีกด้วย