- 10 ก.ค. 2568
หญิงวัย 58 ปีเวียนหัว เดินเซ พูดไม่ชัด 40 นาที ก่อนเข้า รพ. พบเลือดออกในสมองน้อยจากความดันพุ่ง 220/110 รักษาเฉียบพลันทันเวลา
"หมอมนูญ" นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ระบุว่า
ผู้ป่วยหญิงอายุ 58 ปีมาโรงพยาบาลด้วยเวียนศีรษะ อาเจียน ปวดหัวบริเวณท้ายทอย เดินเซ พูดไม่ชัด 40 นาที ก่อนมารพ.ไม่มีแขนขาอ่อนแรง ไม่ชา
เป็นโรคความดันโลหิตสูง กินยาลดความดัน แต่ควบคุมความดันได้ไม่ดี
วัดความดันในห้องฉุกเฉินสูงมาก 220/110 ไม่มีไข้ ตรวจร่างกาย ตื่น รู้ตัว แขนขาไม่อ่อนแรง ทำคอมพิวเตอร์สมองพบมีเลือดออกขนาด 3.5 × 4.5 × 3.2 เซนติเมตร ในสมองส่วน cerebellum หรือสมองน้อยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสมองที่อยู่บริเวณท้ายทอย (ดูรูป) ยังไม่มีภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ (hydrocephalus)
ตรวจเลือดการทำงานของไตปกติ วัดระดับฮอร์โมน metanephrine และ normetanephrine ในเลือดปกติ อัลตราซาวด์ไม่พบเนื้องอกต่อมหมวกไต ไม่พบโรค Pheochromocytoma
วินิจฉัย : ภาวะเลือดออกในสมองน้อยเฉียบพลัน (Acute intracerebellar hemorrhage) จากหลอดเลือดในสมองแตกเนื่องจากความดันโลหิตสูงมาก ทำให้มีเลือดออกในเนื้อสมองอย่างเฉียบพลัน ภาวะนี้เป็นภาวะฉุกเฉินรุนแรง และอาจนำไปสู่ความพิการหรือเสียชีวิตได้ ให้ยาลดความดันทางหลอดเลือดทันที ให้ยาฉีด mannitol ลดความดันในกระโหลกศีรษะจากภาวะสมองบวม ปรึกษาศัลยแพทย์ประสาทแนะนำไม่ต้องผ่าตัด ติดตามอาการใกล้ชิดในไอซียู คนไข้ดีขึ้นช้าๆ พูดชัดขึ้น ความดันควบคุมได้ดี เปลี่ยนเป็นยากิน ทำคอมพิวเตอร์สมองซ้ำ 3 วันต่อมา เลือดไม่ออกเพิ่มขึ้นที่ cerebellum ย้ายออกจากห้องไอซียูได้
ให้ยาลดความดันชนิดกินต่อไป
การทรงตัวดีขึ้น ยังเดินเซๆ พูดชัดแล้ว ไม่ปวดศีรษะ ทำกายภาพฝึกเดินต่อไป ทำคอมพิวเตอร์สมองซ้ำ 2 สัปดาห์ต่อมา พบบริเวณที่เลือดออกในสมองน้อย cerebellum ลดลงมาก คุมความดันได้ดี 120/80 กลับบ้านได้ 16 วันหลังเข้ารักษาในรพ.






