- 15 ก.ค. 2568
อดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดนแจ้ง 2 ข้อหา พัวพันสีกากอล์ฟ ได้ปล่อยตัวชั่วคราว
จากกรณีที่ "พระเทพพัชราภรณ์" อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง ตำบลสนับทึบ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีข่าวพัวพันกับสีกากอล์ฟ ก่อนได้ลาสิกขาไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา สารภาพโอนเงินจากบัญชีให้สีกากว่า 12.8 ล้านบาท
โดยก่อนหน้าจะลาสิกขา วันที่ 13 กรกฎาคม 2568 พระเทพพัชราภรณ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งแต่ไม่ได้ลาสิกขา ซึ่งการลาออกดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยผลการสอบสวนว่า มีการโอนเงินจากบัญชีของพระรูปดังกล่าวให้แก่ว่า "สีกากอล์ฟ" รวมมูลค่ากว่า 12.8 ล้านบาท
ภายหลังการลาออก เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ธรรมยุต) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งพระจากวัดโสมนัสวิหาร ซึ่งดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธรรมยุต) เข้ารักษาการเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมารามเป็นการชั่วคราว
และในวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 มีรายงานว่า อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมารามได้ลาสิกขาเรียบร้อยแล้ว และได้ให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ว่าตนเองหลงเชื่อหญิงรายหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าจะนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจ พร้อมกล่าวอ้างถึงพระผู้ใหญ่ ทำให้เกิดความไว้ใจจนตัดสินใจโอนเงินไปทั้งหมดราว 12.8 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินของวัดประมาณ 400,000 บาท
ด้านรองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระบุว่า กรณีที่มีเงินของวัดเกี่ยวข้องถือเป็นเรื่องร้ายแรง ไม่เพียงผิดวินัยสงฆ์เท่านั้น แต่ยังเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย
คืบหน้าล่าสุดวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 มีรายงาน จากคำให้การ อดีตพระเทพพัชราภรณ์ยอมรับว่า ยินยอมโอนเงินด้วยความไว้ใจ เนื่องจากมีความสนิทสนมกับสีกากอล์ฟ โดยเริ่มจากเงินส่วนตัวจนหมดบัญชี จำนวน 12.8 ล้านบาท และต่อมานำเงินของวัดมาใช้แทน 380,000 บาท ก่อนจะนำเงินจำนวนดังกล่าวคืนให้วัดภายหลัง
แม้มีการคืนเงิน แต่พนักงานสอบสวนเห็นว่าการกระทำความผิดสำเร็จแล้ว จึงแจ้งข้อหา
1. เป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147
2. เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157
ทั้งนี้อดีตพระเทพพัชราภรณ์เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนจึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างดำเนินคดี






