ไม่รอด 2 โจ๋กร่างควงปืนไล่จี้นักเรียน วันเดียว 3 คน ล่าสุดเกมแล้ว

จากกรณีครูโรงเรียนแห่งหนึ่งได้โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือติดตามตัวคนร้ายสองคน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์เด็กนักเรียนที่กำลังเดินเข้าโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 06:00 น. ของวันที่ 16 กรกฎาคม หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ถนนไทยรามัญ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร

 

 

 

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยพบว่าจุดเกิดเหตุแรกอยู่บริเวณหน้าร้านซักรีด และจุดที่สองบริเวณลานจอดรถ อยู่ตรงข้ามร้านซักรีด ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ตรงข้ามทางเข้าโรงเรียนของผู้เสียหาย

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายสมชัย นามสมมติ พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนดังกล่าว ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงเกิดเหตุมีผู้เสียหายสามคน ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียน ถูกคนร้ายสองคนขับขี่รถจักรยานยนต์และใช้อาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่และชิงเงินจากผู้เสียหาย โดยได้เงินไปประมาณ 2-3 ร้อยบาท หลังจากนั้นจึงได้ขับรถหลบหนีไป

โดยคนร้ายได้มาก่อเหตุกับนักเรียนสองคน โดยสองคนแรกช่วงเวลาประมาณ 05:40 น. บริเวณลานจอดรถซึ่งอยู่ติดกับร้านซักรีด และคนก่อเหตุพยายามใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์นักเรียนอีกหนึ่งคนเวลาประมาณ 06:20 น. ที่บริเวณร้านซักรีด ซึ่งอยู่ติดกันกับจุดแรก ซึ่งตอนเกิดเหตุตนเองอำนวยความสะดวกด้านงานจราจรอยู่ที่หน้าโรงเรียน จึงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนคนร้ายขณะนี้ตำรวจก็สามารถจับกุมตัวได้แล้ว ซึ่งเป็นเยาวชนทั้งคู่

 

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับทราบข้อมูลทางด้านคดีโดยทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว โดยเป็นเยาวชนทั้งคู่ คือ เด็กชายเอ และเด็กชายบี นามสมมติ อายุ 14 ปี

โดยพฤติกรรมการก่อเหตุ คนก่อเหตุทั้งคู่ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น SCOOPY-I สีขาว จำนวน 1 คัน โดยพกพาอาวุธมีดยาวประมาณ 30 เซนติเมตร และปืนปลอม ไปดักจี้ผู้เสียหาย ซึ่งขณะทำการก่อเหตุได้โชว์อาวุธปืนที่ติดตัวมาข่มขู่ผู้เสียหายเพื่อมอบเงินให้ โดยได้เงินมาประมาณ 220 บาท หลังจากก่อเหตุจึงหลบหนีมากบดานอยู่ที่บ้านของตนเองทั้งคู่ ภายในพื้นที่คลองสามวา

 

 

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแกะรอยจากกล้องวงจรปิด จึงสามารถติดตามตัวทั้งคู่ได้ โดยเยาวชนทั้งสองคนยอมรับว่า ก่อเหตุดังกล่าวจริง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวเยาวชนคนก่อเหตุ พร้อมของกลางมาที่ สน.คันนายาว เพื่อทำบันทึกตรวจยึด พร้อมส่งพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป