ทำความรู้จัก พระพรหมวชิรญาณโสภณ ผู้สละทรัพย์กว่า 21 ล้าน เพื่อช่วยคน

กราบหัวใจ “พระพรหมวชิรญาณโสภณ” บริจาคอุปกรณ์แพทย์เกือบ 22 ล้าน ช่วยชีวิตคนไม่เลือกหน้า พระพรหมวชิรญาณโสภณ วิ. (เลี่ยม จันทำ) ฉายา ฐิตธมฺโม เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ได้บริจาคครุภัณฑ์ทางการแพทย์จำนวน 28 รายการ รวมมูลค่า 21.9 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการรักษาพยาบาลแก่โรงพยาบาลวารินชำราบ

 

จากป่าธรรมสู่แสงแห่งชีวิต

 

พระผู้ให้แห่งวัดหนองป่าพง มอบครุภัณฑ์แพทย์ 28 รายการ รวมมูลค่า 21.9 ล้านบาท สู่โรงพยาบาลวารินชำราบ

 

ในโลกที่ความวุ่นวายและความเห็นแก่ตัวกลายเป็นเรื่องธรรมดา ยังมี “พระผู้ให้” รูปหนึ่ง ผู้ซึ่งใช้ชีวิตเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยเมตตาและการเสียสละอย่างไม่มีเงื่อนไข — พระพรหมวชิรญาณโสภณ วิ. (เลี่ยม จันทำ) ฉายา ฐิตธมฺโม เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

 

เมื่อไม่นานมานี้ ท่านได้บริจาคครุภัณฑ์ทางการแพทย์ จำนวน 28 รายการ รวมมูลค่ากว่า 21.9 ล้านบาท แก่โรงพยาบาลวารินชำราบ โดยไม่หวังชื่อเสียงหรือการยกย่อง หากแต่ด้วยเจตนาเพียงประการเดียว — เพื่อให้ชีวิตผู้คนได้รับการรักษาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

"การให้คือธรรมะที่จับต้องได้"

 

นี่คือธรรมะที่ท่านสอนด้วยการกระทำ มากกว่าคำพูด

 

ชีวิตแห่งการฝึกฝน จากเด็กชายเลี่ยม สู่พระผู้มั่นในธรรม

 

พระพรหมวชิรญาณโสภณ เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2484 ณ บ้านโคกจาน ตำบลทุ่งไชย อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ เป็นบุตรของนายเพ็ง และนางเป้ง จันทำ มีพี่น้อง 6 คน โดยท่านเป็นบุตรคนที่ 4

 

ท่านอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2504 และสอบได้นักธรรมชั้นเอกในปี พ.ศ. 2507 แสดงถึงความตั้งใจจริงในการศึกษาพระธรรม

 

แต่จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2512 เมื่อท่านออกเดินธุดงค์เพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ และได้พบกับพระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท) ณ วัดหนองป่าพง วัดป่าที่ร่มรื่นและเคร่งครัดในพระธรรมวินัย

 

เมื่อได้ฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อชาได้เปลี่ยนบริขารของท่านใหม่ทั้งหมด เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในร่มเงาธรรมะอย่างแท้จริง และด้วยความเพียรพยายาม ท่านปฏิบัติตามระเบียบอันเข้มงวด เช่น การถือเนสัชชิกในวันพระ (ไม่นอนตลอดคืน) โดยไม่ย่อท้อ

 

สืบทอดเจตนารมณ์หลวงพ่อชา

 

หลังจากหลวงพ่อชาอาพาธหนัก ได้ขอให้พระอาจารย์เลี่ยมรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองป่าพงสืบต่อ ท่านยอมรับด้วยความอ่อนน้อม และดำรงตำแหน่งด้วยหัวใจของ “ผู้รับใช้พระศาสนา” มากกว่าผู้นำ

 

อุปนิสัยของท่านมักน้อย สันโดษ ถ่อมตน เป็นเหตุให้พุทธศาสนิกชนทั้งในและต่างประเทศเลื่อมใสศรัทธา

 

 

พลังแห่งเมตตา จากธรรมะสู่การแพทย์

 

การบริจาคในครั้งนี้สะท้อนชัดเจนว่า พระธรรมมิได้จำกัดอยู่ในบทสวดหรือศาลาการเปรียญ แต่สามารถปรากฏในรูปของเครื่องช่วยชีวิต—อุปกรณ์แพทย์ที่ช่วยต่อชีวิตผู้คนไม่เลือกศาสนา ชาติพันธุ์ หรือสถานะทางสังคม

 

สิ่งที่ท่านทำในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียง “การให้”

 

หากเป็นการย้ำว่า “พระพุทธศาสนา” ยังคงเป็นแสงสว่างแก่โลกใบนี้

 

ขออนุโมทนาในคุณงามความดีของพระพรหมวชิรญาณโสภณ ผู้ที่ทำให้เราเห็นว่า… “ยิ่งให้ ยิ่งสูง ยิ่งเสียสละ ยิ่งสงบ”