- 21 ก.ค. 2568
ตกใจ เด็กหญิง 12 ปี ท้องเสียไม่หาย ส่องกล้องเจอต้นตอฝังในลำไส้จำนวนมาก รักษาเร่งด่วน หลังร่างกายอ่อนเพลียหนัก
เป็นอีกประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เมื่อเพจ "เอฟเอ็มซีคลินิกเวชกรรม" โพสต์เตือน หลังเจอเด็กหญิงวัยเพียง 12 ปี เข้ารักษาด้วยอาการ ท้องเสียติดกันนานนับสัปดาห์ อ่อนเพลียจนแทบลุกไม่ไหว ถ่ายวันละ 3-4 ครั้ง ปนเลือดและมูก แพทย์ตรวจร่างกายพบ ซีดจัด หัวใจเต้นเร็ว ขาดสารอาหารรุนแรง น้ำหนัก-ส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์
โดยเพจ เอฟเอ็มซีคลินิกเวชกรรม ระบุว่า ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ส่วนปลายพบพยาธิแส้ม้า ในผู้ป่วยเด็กหญิงวัย 12 ปี เจอเยอะมาก เด็กหญิงอายุ 12 ปี เข้ารับการรักษาด้วยประวัติอ่อนเพลียทั่วร่างกายและท้องเสียมาเป็นเวลา 1 สัปดาห์
ลักษณะอุจจาระเป็นน้ำ 3-4 ครั้งต่อวัน ปนมูกและเลือด โดยก่อนหน้านี้เคยมีอาการลักษณะเดียวกันเมื่อ 11 เดือนก่อน และได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ เมื่อตรวจร่างกาย พบว่าเด็กมีสติสัมปชัญญะดี แต่มีภาวะทุพโภชนาการอย่างรุนแรง ส่วนสูงและน้ำหนักต่ำกว่าเปอร์เซนไทล์ที่ 3 มีอาการซีดจัด นิ้วปุ้ม บวมที่เท้า หายใจเร็ว และหัวใจเต้นเร็ว
ผลตรวจเลือดพบภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กอย่างรุนแรง (ฮีโมโกลบิน 1.3 g/dL) และภาวะอัลบูมินต่ำ แต่การทำงานของหัวใจ ไต และตับปกติ แพทย์สงสัยว่าอาจเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory Bowel Disease) จึงส่งตรวจอุจจาระ พบเม็ดเลือดขาว macrophages จำนวนมาก และไข่พยาธิแส้ม้า (Trichuris)
หลังจากให้การรักษาด้วยการให้เลือดชนิด packed cell น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำ และยาปฏิชีวนะ ผู้ป่วยได้รับการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย (sigmoidoscopy) พบพยาธิแส้ม้าจำนวนมากฝังอยู่ในเยื่อบุของไส้ตรงและลำไส้ใหญ่ พร้อมเยื่อเมือกที่แดงและอักเสบ ลักษณะเฉพาะที่เรียกว่า “coconut cake rectum”
ผลตรวจชิ้นเนื้อยืนยันว่าติดเชื้อ Trichuris trichiura จึงวินิจฉัยว่าเป็น กลุ่มอาการลำไส้บิดจากพยาธิแส้ม้า (Trichuris dysentery syndrome) ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยา albendazole และการเสริมโภชนาการ เมื่อมาตรวจติดตามหลัง 6 เดือน อาการดีขึ้น ความอยากอาหารกลับมา และไม่มีภาวะโลหิตจางอีก Trichuris dysentery syndrome เกิดจากพยาธิแส้ม้าจำนวนมากในลำไส้ ซึ่งทำให้เกิดอาการท้องเสีย เบ่งถ่าย โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก และการเจริญเติบโตที่ไม่ดี อาจส่งผลต่อพัฒนาการด้านสติปัญญา พบบ่อยในเขตร้อนโดยเฉพาะในเอเชียที่สภาพแวดล้อมเอื้อต่อการฟักตัวของไข่พยาธิ
การติดเชื้อเกิดจากการกินไข่พยาธิที่ปนเปื้อนเข้าไป ตัวอ่อนจะฝังในเยื่อบุลำไส้ใหญ่ ทำให้เกิดการทำลายเนื้อเยื่อและกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
การป้องกัน
การรักษาสุขอนามัย
การล้างผลไม้และผักให้สะอาด
ให้ความรู้ผู้ป่วยเกี่ยวกับการล้างมืออย่างถูกวิธี
ขอบคุณ เอฟเอ็มซีคลินิกเวชกรรม






