ทิดยอดเพชร คืนบัญชีให้วัดเหลือไม่ถึง 200 บ. แถมเป็นหนี้อีกหลายแสน

ทิดยอดเพชร คืนบัญชีให้วัดเหลือไม่ถึง 200 บ. รับผิด กราบขอโทษชาวบ้าน เผยหลังสึกจะดูแลครอบครัว ยังไม่รู้ทำอาชีพอะไร ขอตั้งสติก่อน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ก.ค.68 ที่วัดท่าบัวทอง ต.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร นายคม ภัทรกุลประเสริฐ ผอ.สำนักพุทธนา จังหวัดพิจิตร ได้เดินทางมาเป็นพยานรับมอบทรัพย์สินวัดท่าบัวทอง ร่วมกับไวยาวัจกรวัดท่าบัวทอง กรรมการวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ประทับช้าง และฝ่ายปกครอง

ทิดยอดเพชร คืนบัญชีให้วัดเหลือไม่ถึง 200 บ. แถมเป็นหนี้อีกหลายแสน

โดย อดีตพระครูศรีรัตน์วิเชียร ป.ธ.7 เจ้าอาวาสวัดท่าบัวทอง หรือ นายมหายอดเพชร อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าบัวทอง หลังจากลาสิกขาเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากพัวพันรักแรกสีกากอล์ฟ ได้เดินทางมามอบทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นกุญแจกุฏิ กุญแจอุโบสถ หรือบัญชีเงินฝาก ซึ่งเป็นชื่อของวัด 3 บัญชี ปรากฏว่า เงินในบัญชีของวัดรวม 3 บัญชี มีเงินฝากไม่ถึง 200 บาท

ทิดยอดเพชร คืนบัญชีให้วัดเหลือไม่ถึง 200 บ. แถมเป็นหนี้อีกหลายแสน

นอกจากนี้วัดยังเป็นหนี้ค่าก่อสร้างต่างๆ เกือบ 3 แสนบาท พร้อมกับเงินค่าก่อสร้างศาลากลางน้ำอีก 160,000 บาท ก่อสร้างศาลากลางน้ำ ก็ยังไม่มีเงินจ่าย ซึ่งเบื้องต้นกรรมการและไวยาวัจกรรับรู้ และหากมีเจ้าอาวาสองค์ใหม่ ก็จะเร่งดำเนินการหาเงินไปใช้ให้

ในส่วนเครื่องไฟราคากว่า 5 แสน ที่นายมหายอดเพชร เคยยืมชุมชนหมู 1 ต.โพธิ์ประทับช้าง มาใช้ในงานแข่งเรือเมื่อปี 2567 แล้วไม่ยอมคืนให้กับชุมชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ประทับช้าง ได้เชิญตัว นายมหายอดเพชร ไปให้การที่ สภ.โพธิ์ประทับช้าง เนื่องจากผู้ใหญ่บ้านได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว

ด้าน นายคม ผอ.สำนักพุทธศาสนา จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า สำนักพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร ได้เดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานในการรับมอบเอกสารที่อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าบัวทองเอามาคืน ส่วนเงินในบัญชีธนาคารของวัดที่รวมกันแล้วไม่ถึง 200 บาท ประเด็นนี้อดีตเจ้าอาวาสต้องออกมาชี้แจง จากการสอบถามไวยาวัจกร และอดีตเจ้าอาวาสวัดไม่เคยทำบัญชีรายรับรายจ่ายวัด ซึ่งมันไม่เป็นไปตามระเบียบกฏกระทรวงที่บอกว่าไวยาวัจกรต้องทำรายรับรายจ่าย โดยให้เจ้าอาวาสดูแล ซึ่งในมติมหาเถรสมาคมถือว่าละเมิด มีความผิด

ทิดยอดเพชร คืนบัญชีให้วัดเหลือไม่ถึง 200 บ. แถมเป็นหนี้อีกหลายแสน