- 22 ก.ค. 2568
ผกก.สน.เพชรเกษม เผย ยังไม่แจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ เจ้าอาวาสวัดม่วง ผลการสอบสวนเจ้าอาวาส กับไวยาวัจกรของวัดว่า ทั้งคู่ให้การไม่ตรงกัน
ความคืบหน้าวัดม่วง กรณีทองคำแท้น้ำหนัก300บาท และเงินสดอีก10ล้านบาทของเจ้าอาวาสวัดม่วงหายไปว่า โดยในวันที่22 ก.ค.ที่วัดม่วง พระนิทัศน์ เปิดเผยว่า เจ้าอาวาสเอาไปขายที่ร้านทองบางส่วน ซึ่งตำรวจแจ้งมาว่าทางเจ้าอาวาสพอจะนึกออกว่าทองอยู่ไหนบ้าง แต่รายละเอียดมีไม่มาก สรุปได้คือทองไม่ได้หาย แต่แกล้งทำเป็นหลงๆลืมๆ ซึ่งทองเพิ่งจะขายไปจะลืมได้อย่างไร คิดว่าตำรวจคงมาสอบสวนต่อและรู้ว่าทองอยู่ไหน หากไม่อยู่บนกุฏิคิดว่าคงขายไปหมดแล้ว
ส่วนเงินก็คงเอาไปใช้แล้วส่วนเอาไปใช้อะไรต้องไปถามที่เจ้าตัว ซึ่งนี่คือความจริงที่หลวงพี่แค่หลับตาได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่าโกหก ส่วนคนที่เคยดูถูกดูแคลนก็คงต้องถามว่าทำไมถึงเชื่อเจ้าอาวาสไม่เชื่อเรา เพราะเราไม่มียศตำแหน่งอำนาจบารมีถึงไม่เชื่อ แต่หลวงพี่พูดเสียงดังฟังชัดไม่อย่างนั้นนักข่าวคงไม่ตาม ซึ่งเมื่อรู้ว่าทองไม่ได้หายก็ต้องโดนข้อหาแจ้งความเท็จ หากตำรวจไม่ดำเนินการหลวงพี่จะเข้าไปแจ้งความเอง ที่สน.เพชรเกษม จะอ้างว่าลืมไม่ได้ ยืนยันว่าความจำของเจ้าอาวาสยังดีอยู่เรื่องที่เคยเป็นประเด็นกันมา 20 ปีก็ยังจำได้
สำหรับ ทองเชื่อว่าเป็นทองของวัดไม่มีทางที่จะเป็นทองของคนอื่น ของทุกอย่างเป็นของวัดหมด ส่วนทองบางส่วนและเงินก็คงต้องค่อยๆหากันไปเพราะตัวเจ้าอาวาสมีสิทธิ์ที่จะโกหกไปเรื่อยๆ ซึ่งมีข่าวลือว่าทองขายไปแล้วถึง 300 บาท ยืนยันว่าไม่มีการขโมยอย่างแน่นอน
ที่ผ่านมาตัวเจ้าอาวาสทำตัวเหมือนคนรวยคิดว่าอะไรก็ทำง่ายไปหมด แต่กลับไม่คิดว่าจะมีพระอย่างหลวงพี่ หากหลวงพี่ไม่ออกมาพูดเรื่องนี้ก็คงจบ ซึ่งตัวเจ้าอาวาสเองเรื่องทองหายเป็นเพียงแค่การลงบันทึกประจำวัน ไม่ใช่การแจ้งความ เพื่อเอาไว้เป็นหลักฐานให้ญาติโยมดูเวลามาถามว่าเงินที่ทำบุญหายไปไหน และด้วยความเป็นพระผู้ใหญ่หากบอกว่าเงินและทองหายญาติโยมอาจจะนำเงินมาถวายเพิ่มอีกก็ได้
ด้าน พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ พิจารณา แจ้งข้อหาแจ้งความเท็จกับเจ้าวาสวัดม่วง เพราะต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานและยังมีองค์ประกอบอีกหลายอย่าง ถึงแม้ว่าจะมีข้อมูลเรื่องทองคำที่หายแล้วว่าบางส่วนได้มีการขายไปแต่จากการสืบสวนพบว่าเจ้าอาวาสอ้างว่ามีการ ซื้อมาขายไปจึงจำไม่ได้ว่าเป็นจำนวนเท่าใด
เนื่องจากเจ้าวาสมีอายุถึง 76 ปี จึงต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว ยืนยันว่าตำรวจทำงานทุกด้านอย่างเต็มที่ถ้าพบมีข้อมูลว่าเป็นการแจ้งความเท็จก็อาจจะพิจารณาดำเนินคดีได้ ส่วนเรื่องทรัพย์สินบางส่วนที่อ้างว่าเจอแล้วตอนนี้ชุดสืบสวนได้เก็บข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายหรือใบซื้อขายต่างๆ ซึ่งก็ต้องดูว่าทุกอย่างมีข้อมูลตรงกันหรือไม่ ทรัพย์สินไม่ว่าจะเป็นทองคำหรือเงินสดที่เจ้าอาวาสอ้างว่าหายไป ยอมรับว่าบางส่วนรู้ที่มาที่ไปแล้ว ส่วนที่เหลือยังไม่พบจึงต้องสืบสวนต่อไปว่า มีการขโมยไปหรือหายจริงหรือไม่
รายงานแจ้งว่า ตำรวจกก.สส.บก.น.9 สรุปรายงานผลการสอบสวนเจ้าอาวาส กับไวยาวัจกรของวัดว่า ทั้งคู่ให้การไม่ตรงกัน จึงส่งผลการสอบสวนให้กลับมาให้สน.เพชรเกษมพิจารณาด้านคดีต่อไป และช่วงเวลา11.30น.วานนี้(21ก.ค.)เจ้าอาวาสวัดม่วงได้เดินทางไปที่ธนาคารทหารไทยธนชาติ สาขาเพชรเกษมกับโยมชายหญิง โดยถือซองสีน้ำตาลใบใหญ่ไปด้วย คาดว่าจะนำเงินไปฝาก





