รัฐบาลกัมพูชาอาจไม่สะทกสะท้าน ถ้าประชาชนเสียชีวิตเป็นเบือ

คนเขมรจะรู้มั้ย? เบื้องลึกเหตุปะทะ ไทย - กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาอาจไม่สะทกสะท้าน ถ้าประชาชนเสียชีวิตเป็นเบือ

สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังเกิดเหตุปะทะใกล้ปราสาทตาเมือนธม โดยฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้เปิดฉากยิงก่อน ทำให้มีทั้งทหารและประชาชนไทยได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ชาวบ้านต้องอพยพหนีจากพื้นที่เสี่ยง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์

 

รัฐบาลกัมพูชาอาจไม่สะทกสะท้าน ถ้าประชาชนเสียชีวิตเป็นเบือ

รายการ โหนกระแส วันที่ 24 ก.ค. ได้เปิดเวทีวิเคราะห์ประเด็นนี้ โดยเชิญ รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช , ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล และ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ร่วมถกประเด็น ทั้งด้านความมั่นคงและมุมมองทางการเมือง โดยตั้งข้อสังเกตถึงการยิงแบบ “indiscriminate” หรือยิงแบบไม่เลือกเป้าของกัมพูชา ซึ่งเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และยังส่งผลให้กระสุนตกใส่ชุมชนและโรงพยาบาลของไทย

 

ผศ.ดร.ปริญญา ระบุว่า กัมพูชาพยายามปลุกกระแสชาตินิยมอ้างสิทธิ์พื้นที่บางส่วนว่าเป็นของขอม ทั้งที่ตามประวัติศาสตร์ก็เคยเป็นของสยามมาก่อน พร้อมเตือนว่าไทยต้องไม่เล่นเกมเดียวกับที่เคยแพ้บนเวทีโลกในปี 2554 แม้จะชนะในสนามรบก็ตาม

รัฐบาลกัมพูชาอาจไม่สะทกสะท้าน ถ้าประชาชนเสียชีวิตเป็นเบือ

 

ในส่วนของการสู้รบกัน กัมพูชาไปตั้งฐานยิงในจุดที่มีชุมชน มีประชาชนกัมพูชาอยู่ เหมือนพยายามจะใช้ประชาชนเป็นโล่ แต่ปัญหาก็คือ การให้ความสำคัญกับชีวิตประชาชนไม่เท่ากัน บางทีคนเขมรตายสัก 500 คน รัฐบาลกัมพูชาอาจจะไม่สะทกสะท้าน แต่ไทยเสียสัก 50 คนก็เป็นเรื่องใหญ่มากๆ ดังนั้น สิ่งที่ควรจะต้องตอบโต้ มันจึงต้องใช้ อากาศยาน ใช้ F-16 ในการข่มขู่ และเป็นการต่อสู้ที่มีความแม่นยำสูง ตรงไหนยิงใหส่เรา เราก็ไปทำลายตรงนั้น ไม่ไปทำลายล้างในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้อง

 

แต่ถ้าพูดกันเรื่องแสนยานุภาพ หรือวิทยาการทหาร ไทยเรามีกำลังที่สามารถบดขยี้กัมพูชาได้อยู่แล้ว และทางการกัมพูชาก็รู้ตัวดี แต่ฮุนเซน ฮุนมาเนต เขาพยายามสร้างสถานการณ์วิกฤตเหล่านี้ขึ้นมาเอง เพื่อกดดันหรือยุยงให้ไทยพยายามไปทำลายล้างเขา เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอ

 

รัฐบาลกัมพูชาอาจไม่สะทกสะท้าน ถ้าประชาชนเสียชีวิตเป็นเบือ

ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ตั้งข้อสังเกตว่า สถานการณ์ครั้งนี้อาจเกิดจากความตั้งใจของฮุน มาเนต เพื่อสร้างเงื่อนไขให้ไทยตอบโต้ แล้วนำไปสร้างความชอบธรรมในเวทีโลก เหมือนที่เคยทำกับกรณีเขาพระวิหาร พร้อมเตือนให้ไทยระมัดระวังอย่าตกเป็นเหยื่อข่าวสารฝ่ายเดียว

 

ทางด้านกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์กล่าวหาไทยว่าเป็นฝ่ายรุกรานก่อน แม้ว่าเหตุปะทะจะเริ่มจากฝั่งกัมพูชาเอง โดยผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเป็นเพียง propaganda ภายในประเทศ เพราะประชาคมโลกไม่ได้ให้ความสำคัญกับการกล่าวอ้างของกัมพูชามากนัก

 

สุดท้าย นักวิชาการหลายคนเห็นตรงกันว่า หากมีการใช้กำลังปิดเกม ฝ่ายไทยสามารถทำได้เหนือกว่าโดยเฉพาะทางอากาศ แต่สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ “สงครามวัฒนธรรม” ที่ผู้นำกัมพูชาทุกยุคยังคงเดินหน้าปลูกฝังแนวคิดยึดดินแดนจากเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง

 

รัฐบาลกัมพูชาอาจไม่สะทกสะท้าน ถ้าประชาชนเสียชีวิตเป็นเบือ