ยอดทหารกัมพูชาเสียชีวิตล่าสุด เฉพาะที่สามารถยืนยันได้

หน่วยความมั่นคงกองทัพภาคที่สองอัพเดต ยอดทหารกัมพูชาเสียชีวิต เฉพาะที่สามารถยืนยันได้ - ล่าสุดยังใช้พลเรือนตัวเองเป็นโล่กำบัง

จากที่มีรายงานว่า เมื่อเวลา 04.30 น. ของวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 กองทัพกัมพูชาเริ่มปฏิบัติการยิงโจมตีเข้ามาในฝั่งไทยหลายจุด ได้แก่ ช่องบก, ภูมะเขือ และพนมดงรัก โดยเริ่มจากการใช้ปืนเล็กตามด้วยปืนใหญ่ ขณะที่ฝั่งไทยได้ตอบโต้ทันทีด้วยปืนใหญ่ โดยเฉพาะการใช้ ATMG 155 มม. (ปืนใหญ่ไทยผลิตเอง) ต้านการยิงจาก BM-21 ของกัมพูชา โดยมีเป้าหมายที่ฐานทหารฝั่งตรงข้ามบริเวณ อ.จอมกระสาน

ยอดทหารกัมพูชาเสียชีวิตล่าสุด เฉพาะที่สามารถยืนยันได้

 

สถานการณ์ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ณ เวลา 08:30 น. (จากเพจ Army Military Force - สำรอง)
ช่องบก : ยิงตอบโต้กันด้วยปืนใหญ่และ BM-21
ช่องอานม้า : อนุสาวรีย์คนขี่ม้าและอาคารรอบข้างถูกทำลาย
พื้นที่ซำแต : ทหารราบและรถถังไทยโต้กลับเพื่อยึดพื้นที่
ช่องตาเฒ่า : กัมพูชานำรถถัง 15 คันมาใช้เป็นฐานยิง
เขาพระวิหาร : ฝ่ายไทยตรึงกำลังเฝ้าระวัง
ภูมะเขือ : ปะทะกันด้วยการเข้าตีและยิงโต้ตอบ
ช่องจอม : ปะทะกันอย่างต่อเนื่อง
ปราสาทตาควาย : กัมพูชาเสริมกำลังจำนวนมาก
ปราสาทตาเมือนธม : ไทยวางกำลังรับมือ ขณะที่กัมพูชาพยายามเข้าตี
 

ยอดทหารกัมพูชาเสียชีวิตล่าสุด เฉพาะที่สามารถยืนยันได้

ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงกองทัพภาคที่สองเปิดเผย สรุปความเสียหายเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 24 กรกฎาคม ต่อเนื่องมาจนถึง เช้าวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ว่าทหารกัมพูชา สูญเสียในพื้นที่ หน้าปราสาทตาเหมือนธม ทหารกองพลน้อย ร.42 เสียชีวิต 1 ราย พื้นที่ใต้ประสาทตาเมือนธม พบผู้เสียชีวิต 8 ราย เป็น ทหาร 3 นาย ประชาชน 4 ราย และ พระสงฆ์ 1 รูป


เครื่องบินโจมตี 3 บก.พลที่ 8 , บก.พลที่ 9 และ บก.พลที่ 42 ,โดรนโจมตี ยอดภูมะเขือ คลังอาวุธ และเสาสัญญาณ , ปืนใหญ่โจมตี รถถัง 2 คัน ตรงข้าม สัตตโสม พื้นที่ภูมะเขือ พบทหารกัมพูชาเสียชีวิตจากโดรนทิ้งระเบิด 14 นาย รวมทั้งสิ้น 23 นาย


ส่วนวันนี้ (25ก.ค.68) ปืนใหญ่โจมตี ตรงข้ามช่องบก ทำลาย ปืน ค. 100 จำนวน 3 กระบอก ทหารกัมพูชา เสียชีวิต 1 นาย รวมทั้งสิ้นทหารกัมพูชาเสียชีวิต 24 นาย

ยอดทหารกัมพูชาเสียชีวิตล่าสุด เฉพาะที่สามารถยืนยันได้

ด้านความสูญเสียในประเทศไทยนั้นน่าเศร้าที่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับแนวชายแนว และโดนโจมตีจากฝั่งกัมพูชาด้วย BM-21 ซึ่งจากรายงานที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. 68 ว่า ประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้
1. พื้นที่บริเวณปั๊ม ปตท. บ้านผือ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 10 ราย
2. พื้นที่บ้านโจรก ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 2 ราย (1 รายเป็นเด็กชายอายุ 8 ขวบ) และได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ส่งต่อ รพ.กาบเชิง
3. พื้นที่บ้านกุดเชียงมุน , บ้านจันลา , บ้านโพนทอง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย
4. พื้นที่บ้านขี้เหล็ก ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ส่งผลให้บ้านเรือนและสัตว์เลี้ยงทางการเกษตรได้รับความเสียหาย
5. พื้นที่หมู่ 16 ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พบผู้บาดเจ็บ 1 ราย
6. พื้นที่บ้านหนองแรด ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย
7. พื้นที่บ้านนายบุญล่วม ทองวิเศษ หมู่ 9 ต.โดมประดิษฐ์ ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย


ด้านรายการความสูญเสียของทหารไทยพบว่า ล่าสุดไทยเพิ่งสูญเสีย จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา ผตน.ฟ้าลั่น ไปเมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า เราได้สูญเสีย พลทหาร วรัญชิต ยวงสุวรรณ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่บริเวณแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา ผตน.ฟ้าลั่น

 

อย่างไรก็ตามยิ่งน่าสลดใจเป็นที่สุด เมื่อเพจ Army Military Force - สำรอง ได้รายงานว่า "เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า! กัมพูชาใช้พลเรือนตัวเองเป็นโล่กำบัง รวบรวมคลิปตั้งแต่เมื่อวานนี้ (24 - 25 ก.ค.) ทหารกัมพูชานำระบบจรวดหลายลำกล้อง BM-21 และ RM-70 ไปวางไว้ในชุมชุนและพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านเขมรในจังหวัดอุดรมีชัยและจังหวัดพระวิหาร"

 

ยอดทหารกัมพูชาเสียชีวิตล่าสุด เฉพาะที่สามารถยืนยันได้