วาสนา เปิดเบื้องหลังสมรภูมิปราสาทตาควาย ทหารไทยทำดีที่สุดแล้ว

เบื้องหลังสมรภูมิปราสาทตาควาย "พี่เล็ก" วาสนา นาน่วม เผยทหารไทยเรา ทำดีที่สุดแล้ว สละชีพด้วยความกล้าหาญ ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะมีผล

ความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากมีการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงล่าสุด 31 ก.ค.68  ทาง วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหาร ได้ออกมาเปิดเรื่องราวของปราสาทตาควาย บอกว่า ทหารไทยเราทำดีที่สุดแล้ว สละชีพ สละขากันไปหลายคน เพราะเขมร วางกับระเบิดล้อมปราสาท และทหารไทย อยู่ในที่ต่ำกว่า โดย ทหารไทยสามารถยึดครองปราสาทตาเมือนธม ได้ ส่วน ปราสาทตาควาย ทหารกัมพูชายังคงเข้ายึดครอง

ซึ่ง "พี่เล็ก" วาสนา นาน่วม ได้เผยผ่านช่องยูทูปและเฟซบุ๊คของตนเองว่า นักข่าวกัมพูชา เข้าพื้นที่ ปราสาทตาควาย  30 กค.2568  วันที่ กัมพูชา พาผช.ทูตทหาร และนักข่าว ลงหลายพื้นที่ ยืนยัน  ทหารเขมร ยึดตัวปราสาทตาควาย  ได้ แม้ ทหารไทยจะพยายาม เข้ายึดคืน ตลอดการสู้รบ  แต่ทหารเขมรวางกับระเบิดป้องกัน ไว้  

วาสนา เปิดเบื้องหลังสมรภูมิปราสาทตาควาย ทหารไทยทำดีที่สุดแล้ว

วาสนา เปิดเบื้องหลังสมรภูมิปราสาทตาควาย ทหารไทยทำดีที่สุดแล้ว

ทหารไทย จึงเหยียบกับระเบิด กันหลายคนอีกทั้งชัยภูมิ ไทย เราเสียเปรียบเพราะฝ่ายไทยอยู่ในที่ต่ำกว่า  เขมรอยู่ที่สูงกว่าแม้ทหารไทยจะพยายามเข้าไปยึดคืนในหลายทางแต่ก็เจอฐานเขมรวางกับระเบิดดักไว้รอบ แม้ว่า F16 จะระดม ทิ้งระเบิด  แต่ไม่ได้ทิ้งใส่ตัวปราสาท
แต่ทิ้ง ระเบิดลงด้านนอกแต่ตัวปราสาท ยังกำบัง ระเบิดได้ดี หลังแนว ทหารเขมร  ก็สูญเสียไม่น้อย

วาสนา เปิดเบื้องหลังสมรภูมิปราสาทตาควาย ทหารไทยทำดีที่สุดแล้ว


ในห้วงเวลาการสู้รบทั้ง 5 วัน เครื่องบิน F-16 และเครื่องบินกริพเพนของกองทัพอากาศทิ้งระเบิดทุกวัน วันละ 2 เที่ยว แต่ในวันสุดท้าย ก่อนที่จะมีการหยุดยิงในห้วงประมาณ 3-4 ชั่วโมง เครื่องบิน F-16 ขึ้นบินทิ้งระเบิดรอบพื้นปราสาท ขนาด 2,000 ปอนด์ ซึ่งถือว่าใหญ่มาก เพราะปกติ ไทยใช้แค่ 500 ปอนด์เท่านั้น

ซึ่งไม่ได้ทิ้งระเบิดลงกลางตัวปราสาท และยังมีศพทหารเขมรนอนเกลื่อนอย่างน่าอนาถใจพอสมควร ยํ้า มันการรบ มันคือ สนามรบ ทหารไทยสละชีพไปหลายนายที่ปราสาทตาควายและบาดเจ็บอีกหลายนาย

ทหารกัมพูชารู้ว่าต้องหลบตรงไหน โดยเข้าไปหลบในต้วปราสาทตาควาย เพราะปลอดภัยแน่นอน รู้ว่าไทยไม่ทำลายตัวปราสาท เพราะกองทัพอากาศไทยไม่มีแผนที่จะถล่มลงไปที่กลางตัวปราสาท แล้วทหารกัมพูชาก็มีซอกหลืบที่จะหลบ F-16 โดยเฉพาะตัวปราสาท ทหารไทยทำอะไรไม่ได้เลย 

สำหรับกองทัพภาคที่ 2 ได้ออกมาชี้แจงสรุปสถานการณ์ล่าสุด ณ วันที่ 31 ก.ค.68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 (ณ เวลา 10.00 น.)


ปรากฏความเคลื่อนไหวของกำลังประเทศกัมพูชาและสถานการณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดดังนี้


1. ตรวจพบการเพิ่มเติมกำลังและเสริมความมั่นคงของกำลังประเทศกัมพูชา ในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา

วาสนา เปิดเบื้องหลังสมรภูมิปราสาทตาควาย ทหารไทยทำดีที่สุดแล้ว
2. ตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรนไม่ทราบฝ่าย/ไม่ทราบชนิด) บินตรวจการณ์ที่ตั้งการวางกำลังของฝ่ายเราในหลายพื้นที่ สำหรับการตรวจพบในพื้นที่ชายแดน ได้แก่ ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี, พื้นที่ภูมะเขือ, สัตตะโสม, ปราสาทโดนตรวล, ภูผี อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ, ช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และ ช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

 

3. การดำเนินการต่อผู้ถูกควบคุมตัว ซึ่งเป็นทหารกัมพูชาที่ยอมจำนนเนื่องจากกระสุนหมดในพื้นที่ ช่องซำแต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 20 นาย และอาวุธ/ยุทโธปกรณ์, กระสุน/วัตถุระเบิดที่ตรวจยึดได้ รายละเอียดดังนี้


    3.1 ผู้ถูกควบคุมตัว
                  3.1.1 ทั้ง 20 นาย ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายในความผิดฐาน “เข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย” ต่อพนักงานสอบสวนที่มีอำนาจ
                  3.1.2 การดำเนินการต่อผู้ถูกควบคุมตัวที่บาดเจ็บ จำนวน 2 นาย 
      - ส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.ค่ายวีรวัฒน์โยธิน อ.เมือง จ.สุรินทร์ 
      - ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชมาประเมินอาการ เนื่องจากคาดว่าเกิดจากการเข้าทำการรบเป็นเวลานาน


   3.2 อาวุธ/ยุทโธปกรณ์, กระสุน/วัตถุระเบิด 
         3.2.1 อาวุธ/ยุทโธปกรณ์ ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่สรรพาวุธตรวจสอบและเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อส่งมอบให้พนักงานสอบสวนที่มีอำนาจ ดำเนินคดีตามกฎหมาย 
         3.2.2 กระสุน/วัตถุระเบิด  ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่สรรพาวุธ (EOD) นำไปทำลาย