- 01 ส.ค. 2568
ผัก 5 ชนิด ที่ไม่ควรกินมากเกินไป การบริโภคอาหารบางประเภทในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสมดุลของร่างกายได้
“ผักที่ไม่ควรกินมากเกินไป” ไม่ใช่แค่รสชาติ 5 ผักและสมุนไพรที่ควรทานแต่พอดี ผักและสมุนไพรหลายชนิดที่เราใช้ประกอบอาหารเป็นประจำนั้น มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ตามหลักการแพทย์แผนไทยและโภชนาการ การบริโภคอาหารบางประเภทในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสมดุลของร่างกายได้ โดยเฉพาะอาหารที่มี "ฤทธิ์ร้อน" ซึ่งกระตุ้นให้ร่างกายสร้างความร้อนเพิ่มขึ้น
นี่คือ 5 ตัวอย่างผักและสมุนไพรที่คุณควรบริโภคอย่างพอเหมาะเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย
1. พริก (Chili)
เพราะอะไรถึงไม่ควรกินมากเกินไป: พริกมีสาร แคปไซซิน (Capsaicin) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดรสเผ็ดร้อน สารนี้จะไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนปลาย ทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินและกระตุ้นการเผาผลาญได้ดี แต่หากรับประทานมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายร้อนภายใน มีอาการแสบร้อนในกระเพาะอาหาร ท้องเสีย หรือเป็นสาเหตุของอาการร้อนในและแผลในปากได้
2. ขิง (Ginger)
เพราะอะไรถึงไม่ควรกินมากเกินไป: ขิงมีสรรพคุณทางยาที่โดดเด่นในด้านการเป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยขับลม และแก้อาการท้องอืด แต่ขิงก็มี ฤทธิ์ร้อน ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ร่างกายรู้สึกอบอุ่น หากบริโภคในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น รู้สึกกระหายน้ำ และในบางรายอาจส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความดันโลหิตสูง
3. กระเทียม (Garlic)
เพราะอะไรถึงไม่ควรกินมากเกินไป: กระเทียมมีสาร อัลลิซิน (Allicin) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน กระเทียมมีรสชาติเผ็ดร้อนและมีกลิ่นฉุน ซึ่งถือเป็นอาหารที่มี ฤทธิ์ร้อน เช่นกัน การกินกระเทียมสดในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการแสบท้อง ท้องเสีย และอาจไปกระตุ้นให้เกิดผื่นคันหรือสิวได้ในบางราย
4. ข่า (Galangal)
เพราะอะไรถึงไม่ควรกินมากเกินไป: ข่าเป็นสมุนไพรคู่ครัวที่ช่วยเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอมให้กับอาหารได้อย่างดีเยี่ยม แต่ข่าก็มี ฤทธิ์ร้อน ที่รุนแรงพอสมควร เมื่อนำมาเป็นส่วนประกอบในอาหารที่กินประจำ การบริโภคมากเกินไปอาจไปเพิ่มความร้อนสะสมในร่างกาย ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว และอาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารได้
5. ใบกะเพรา (Sweet Basil)
เพราะอะไรถึงไม่ควรกินมากเกินไป: ใบกะเพรามีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์และมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลมในร่างกาย แต่ก็เป็นสมุนไพรที่มี ฤทธิ์ร้อน หากรับประทานเป็นอาหารหลักทุกวัน อาจทำให้ร่างกายมีความร้อนสะสมเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการกระหายน้ำง่าย ผิวพรรณแห้ง หรือมีอาการร้อนในได้ง่ายกว่าปกติ
สรุป: การบริโภคผักและสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อนเหล่านี้อย่างพอเหมาะ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มรสชาติและคุณประโยชน์ให้กับอาหาร แต่ยังช่วยรักษาสมดุลของร่างกายไม่ให้เกิดความร้อนสะสมมากเกินไป ทางที่ดีควรเลือกทานอาหารให้หลากหลายและเหมาะสมกับสภาพอากาศในแต่ละช่วงเวลาครับ






