10 อันดับข่าวปลอมที่แพร่ระบาดช่วงวิกฤตความตึงเครียดไทยกัมพูชา

ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดเหตุปะทะต่อเนื่องและยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลาย หน่วยงานภาครัฐไทยต้องเร่งรับมือทั้งในด้านความมั่นคงภาคสนามและการควบคุมข้อมูลบนโลกออนไลน์ ล่าสุด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์ข่าวปลอมที่แพร่ระบาดในช่วงวิกฤต พร้อมเตือนประชาชนให้ใช้วิจารณญาณก่อนเชื่อหรือแชร์ข้อมูลบนโซเชียล

 

นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และโฆษกกระทรวงดีอี เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 25 - 31 กรกฎาคม 2568 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 955,073 ข้อความ โดยมี 1,157 ข้อความที่ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอย่างละเอียด และมีจำนวน 271 เรื่องที่ถูกระบุว่าเข้าข่ายข่าวปลอม โดยได้รับผลการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับมาแล้ว 128 เรื่อง

 

ช่องทางที่พบเบาะแสมากที่สุดคือ Social Listening จำนวน 1,118 ข้อความ รองลงมาคือการแจ้งผ่าน LINE Official และ Facebook ซึ่งเนื้อหาข่าวปลอมส่วนใหญ่ในสัปดาห์นี้ล้วนเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติในบริบทความขัดแย้งกับกัมพูชา โดยเฉพาะข่าวที่บิดเบือนหรือสร้างความแตกตื่นเกี่ยวกับกองทัพและเหตุการณ์แนวชายแดน

 

• 10 อันดับข่าวปลอมที่ถูกพูดถึงมากที่สุด มีดังนี้

1. อันดับที่ 1 : เรื่อง ทหารไทยทำร้ายและตัดหัวทหารกัมพูชา
2. อันดับที่ 2 : เรื่อง ทหารไทยเกือบ 140 นายเสียชีวิตใกล้ปราสาทพระวิหาร
3. อันดับที่ 3 : เรื่อง ทหารไทยเสียชีวิต 40 นาย ถูกจับกุม 30 นาย
4. อันดับที่ 4 : เรื่อง นอร์เวย์มอบ F-16 ให้ประเทศไทย 14 ลำ หลังเกิดปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
5. อันดับที่ 5 : เรื่อง  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศเขตภัยพิบัติสงครามเป็นจังหวัดแรก
6. อันดับที่ 6 : เรื่อง ทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ปราสาทพระวิหารและวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ที่เคยเป็นของไทยได้สำเร็จแล้ว
7. อันดับที่ 7 : เรื่อง กองทัพไทยใช้อาวุธชีวภาพโจมตีกัมพูชา
8. อันดับที่ 8 : เรื่อง ทหารไทยใช้เครื่องบินปล่อยสารพิษ สังหารพลเมืองกัมพูชา
9. อันดับที่ 9 : เรื่อง กองทัพภาคที่ 2 เปิดระดมทุนช่วยเหลือทหารไทยรบกัมพูชา
10. อันดับที่ 10 : เรื่อง รมช.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ งดให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยกัมพูชา

ยืนยัน : ข่าวปลอมอันดับ 1 และ 2 เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง
กรณีอันดับ 1 “ทหารไทยทำร้ายและตัดหัวทหารกัมพูชา” ดีอีร่วมกับเพจทีมโฆษกกองทัพบก ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นข้อมูลเท็จทั้งหมด โดยมีการนำภาพเหตุการณ์จริงที่ทหารไทยส่งมอบศพทหารกัมพูชา 12 นายกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาในวันที่ 27 กรกฎาคม มาใส่คำบรรยายบิดเบือน จึงขอให้ประชาชนระวังการรับข่าวจากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ

 

ในส่วนของอันดับ 2 “ทหารไทยเสียชีวิต 140 นาย” ดีอีและกองทัพบกตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นข้อมูลเท็จเช่นกัน โดยภาพที่อ้างว่าเป็นร่างทหารไทยนั้นไม่เป็นความจริง โดยเมื่อวันที่ 27 ก.ค. ฝ่ายไทยได้ส่งคืนศพทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตจากการปะทะในพื้นที่ภูมะเขือ รวม 12 นาย ผ่านด่านถาวรช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นไปตามหลักมนุษยธรรมและการให้เกียรติผู้เสียชีวิตจากสมรภูมิ ไม่ว่าจะสังกัดฝ่ายใด

 

 

• ดีอีเตือน : ระวังข่าวปลอม ปล่อยข้อมูลผิดอาจกระทบวงกว้าง

กระทรวงดีอีขอความร่วมมือประชาชนให้ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารให้แน่ชัดก่อนเชื่อหรือแชร์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่อ่อนไหวและเกี่ยวข้องกับความมั่นคง เนื่องจากข่าวปลอมสามารถสร้างความเข้าใจผิด วิตกกังวล และส่งผลเสียต่อสังคมอย่างรุนแรง ทั้งในด้านจิตใจ ทรัพย์สิน และความมั่นคงของชาติ