- 06 ส.ค. 2568
เร่งช่วยเหลือ ดูแลสภาพความเป็นอยู่ใหม่ อส.ทพ.ประวิทย์ แสนงาม" "นักรบชุดดำแนวหน้าชายแดน ถูกสะเก็ดระเบิดฝังในศีรษะ
จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้เผยแพร่เรื่องราวของ อาสาสมัครทหารพราน ประวิทย์ แสนงาม อายุ 35 ปี ผู้ปฏิบัติหน้าที่แนวหน้าในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุปะทะในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเขาถูกสะเก็ดระเบิดฝังอยู่ในกะโหลกศีรษะ จนต้องเข้ารับการผ่าตัดเปิดกะโหลกเพื่อเอาสะเก็ดออก และพักรักษาตัวนานถึง 10 วันจึงเริ่มฟื้นตัว
แม้จะรอดชีวิตมาได้ แต่อาการบาดเจ็บยังส่งผลรุนแรง เพราะแพทย์วินิจฉัยว่า อาจกลายเป็นผู้ทุพพลภาพถาวร สภาพร่างกายอาจไม่สามารถกลับมาเป็นปกติได้เช่นเดิม ท่ามกลางความห่วงใยจากสังคม ขณะนี้หลายฝ่ายจึงหวังว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งยื่นมือเข้าช่วยเหลือและดูแลอาสาทหารพรานผู้เสียสละรายนี้อย่างเหมาะสมต่อไป
ล่าสุด วันที่ 6 ส.ค. 68 นางสาวนิชฌา พันธุ์วรรณ ที่ปรึกษาพิเศษนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอำนาจเจริญ ผู้แทนนายก อบจ. และผู้แทน สส.สุขสมรวย วันทนียกุล สส.เขต 1 พรรคภูมิใจไทย และ สส.ญาณีนาถ เข็มนาค สส.เขต 2 จังหวัดอำนาจเจริญ พรรคภูมิใจไทย ได้นำสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภคและเงินช่วยเหลือ มอบให้กับนางอุไรพร แสนงาม แม่อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ประวิทย์ แสนงาม อายุ 35 ปี แนวหน้าชายแดนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
พร้อมกับสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านให้กับครอบครัว โดยบ้านที่กำลังสร้างใหม่นั้น ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากครอบครัวของผู้บังคับบัญชาของอาสาสมัครทหารพราน จำนวน 300,000 บาท เนื่องจากสภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก ต้องอาศัยอยู่กระต๊อบหลังเล็ก
สำหรับครอบครัว อส.ทพ.ประวิทย์ มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 5 คน และเป็น อส.ทพ. 3 คน
โดยผู้เป็นพ่อ คือ นายชิน งามแสน เป็นอาสาสมัครทหารพราน
ลูกชายคนที่ 1 คือ นายสุริยา งามแสน เป็นอาสาสมัครทหารพราน (ขณะนี้ประจำที่ภูมะเขือ)
ลูกชายคนที่ 2 คือ นายสาธิต งามแสน
ลูกชายคนที่ 3 คือ นายประวิทย์ งามแสน เป็นอาสาสมัครทหารพราน ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
ลูกชายคนที่ 4 คือ นายสิทธิ์ศักดิ์ งามแสน
ลูกชายคนที่ 5 คือ นายณัฐพงษ์ งามแสน
ซึ่งในขณะนี้ อส.ทพ.ประวิทย์ ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สรรพสิทธิ์ประสงค์ จ.อุบลราชธานี โดยมีคุณพ่อ คือ อส.ทพ.ชิน แสนงาม คอยดูแล
สำหรับ อส.ทพ.ประวิทย์ มีภรรยาและลูกสาวอายุ 10 ปี ที่ต้องดูแล และมีฐานะยากจน ต้องอาศัยอยู่ในกระต๊อบแคบๆ ไม่สะดวกสบาย เวลาที่ต้องกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด เมื่อทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้รับทราบ จึงได้ตอบแทนความเสียสละของทหารพรานที่เสียสละปกป้องผืนแผ่นดิน โดยการสนับสนุนสร้างบ้านให้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
ขอบคุณภาพ Nichcha Phanwan






