- 08 ส.ค. 2568
หญิงอดีตคนสนิทหมอบี รุดให้ปากคำตำรวจกองปราบฯ ลั่นไม่ใช่เลขขาเป็นเพียงจิตอาสา ยอมพูดแล้วเรื่องเงินส่วนแบ่ง 70 % - 30 %
คืบหน้าประเด็น หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ หลังจาหเมื่อวันที่ 7 ส.ค.68 หมอบี ได้เดินทางเข้าพบให้ปากคำพนักงานสอบสวนกองปราบฯ นานเกือบ 10ชั่วโมง ล่าสุดวันนี้ 8 ส.ค.68 เวลา 09:30 น. นางสาวเอ ( นามสมมติ ) อดีตคนสนิทหมอบี ที่เพิ่งไปออกรายการโหนกระแส ได้เดินทางมาให้ปากคำในฐานะพยานที่ ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งเธอเองใส่หมวกใส่หน้ากากอนามัย พร้อมใส่เสื้อคลุมปิดบังใบหน้าชัดเจน
ระหว่างที่เธอเดินทางมาให้ปากคำทีมข่าวพยามสอบถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหมอบีเธอให้ความชัดเจนว่าเป็นเลขาหมอบีแต่อย่างใดเป็นเพียงจิตอาสาที่ทำงานร่วมกันจึงไม่ทราบเรื่องเงิน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าเรื่องเงินที่หมอบีอ้างว่าอยู่กับเลขาก่อน 3 วันค่อยมาถึงหมอบีเธอยืนยันว่าเธอไม่เคยจับเงินพวกนั้น “ เพราะไม่ใช่เลขา เรื่องเงินถึงไม่พูด “
ส่วนที่ออกมาให้ข้อมูลกับทางรายการและทางเจ้าหน้าที่เพื่ออยากให้เกิดความโปร่งใสและให้คนตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบที่เป็นจริง ส่วนหมอบีจะรู้เห็นกับพระอลงกรณ์จะวาดวัดพระบาทน้ำพุหรือไม่นั้นเธอเองไม่ทราบ
ส่วนเรื่องส่วนแบ่ง 70 % ให้วัด และ 30% ให้หมอบี ที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้เธอตอบกับผู้สื่อข่าวก่อนเดินเข้าไปสอบปากคำว่า "ก็คงเป็นแบบนั้นแหละค่ะ "
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 8 ส.ค.68 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายหลังจาก หมอบี เข้าให้ปากคำต่อ พนักงานสอบสวนก็กลับกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม นานกว่า 7 ชั่วโมง โดยนำเอกสารหลักฐานต่างๆ จำนวนหลายแฟ้มมาแสดงให้พนักงานสอบสวนดู โดยทางตำรวจได้ถ่ายสำเนาและให้เซ็นรับรอง พร้อมตอบคำถามประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการรับเงินบริจาคให้วัดพระบาทน้ำพุ มานานต่อเนื่องหลายปี มีการขอตัวเข้าห้องน้ำ 3-4 ครั้ง
และหยุดพักรับประทานอาหารตอนช่วงเวลา 21.30 น. ก่อนจะสอบปากคำต่อจนถึงเที่ยงคืนถึงจะเสร็จ โดยหมอบี ต้องเซ็นคำให้ปากคำทุกแผ่นจำนวนหลายสิบหน้ากระดาษ ระหว่างรอเซ็นคำให้การและเอกสารต่างๆ
หลังจากนั้นหมอบี กับพวก 4 คน ได้เดินออกจากห้องพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อเดินทางกลับผู้สื่อข่าวได้ยับเฝ้ารอสัมภาษณ์พยามสอบถามกับหมอบีถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนถึงวันนี้เข้าให้ปากคำตำรวจกองปราบ ซึ่งตัวหมอบีได้กล่าวเพียง สั้นๆ ว่า หลังจากที่ตนออกจากโรงพยาบาลเมื่อวานแล้ว ในวันนี้นั้นตนได้เดินทางมาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในส่วนจะให้สัมภาษณ์รายละเอียดอย่างไรนั้น ทุกอย่างก็ตอบไปในรายการ ทีวี ช่องหนึ่ง (รายการแฉ) หมดแล้ว
ในส่วนเรื่อง เลขาฯ นั้น ตนยังไม่ขอรายละเอียดใดๆ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า “ถ้าทำดี ทำด้วยใจบริสุทธิ์ มันไม่มีทางขัดกับกฎหมาย มันถูกต้อง”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ถือได้ว่าเป็นแง่ของการเมือง ในส่วนของกลุ่มพรรคพวกที่อยู่กับหลวงพ่อหรือไม่นั้น หมอบีไม่ตอบคำถามใดๆ ก่อนที่จะขึ้นรถแล้วขับออกไป





