"บิ๊กเต่า" จ่อนิมนต์"หลวงพ่ออลงกต"มาให้ข้อมูลเพื่อความชัดเจน

"บิ๊กเต่า"พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว จ่อนิมนต์หลวงพ่ออลงกตมาให้การ คดีหมอบี-วัดพระบาทน้ำพุ เพื่อความชัดเจนด้วย

13 ส.ค.68 พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียก 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมใหญ่นัดแรกติดตามความคืบหน้าคดี “หมอบี-วัดพระบาทน้ำพุ โดยมี กองบังคับการปราบปราม กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ  และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ  เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี 

โดยพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยสั้นๆ ก่อนการประชุมดังกล่าว ว่า วันนี้จะเป็นการประชุมกำหนดแนวทางในหลายประเด็น ส่วนหลังจากนี้จะถึงขั้นการออกหมายจับหรือดำเนินคดีกับใครหรือไม่ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ตอบว่า ยัง ก่อนที่จะเดินขึ้นลิฟท์ไป 

"บิ๊กเต่า" จ่อนิมนต์"หลวงพ่ออลงกต"มาให้ข้อมูลเพื่อความชัดเจน

ภายหลัง การประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง  พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ เปิดผยว่า ขณะนี้มีความชัดเจนในหลายเรื่อง แต่มีบางมิติยังไม่ชัดเจนต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมมากขึ้นและสามารถพิสูจน์ได้   

"บิ๊กเต่า" จ่อนิมนต์"หลวงพ่ออลงกต"มาให้ข้อมูลเพื่อความชัดเจน

ส่วนจะต้องเชิญ เจ้าอาวาส หลวงพ่ออลงกตมาให้การหรือไม่นั้น?  จะเชิญทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงต้องนิมนต์หลวงพ่อมาเพื่อให้ความชัดเจนด้วย ส่วนจะไปตรวจสอบข้อมูลที่วัดหรือไม่นั้น ขอดูการพูดคุยของคณะกรรมการก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบใคร ถ้าไม่จำเป็น 

ส่วนที่หมอบี และเลขาฯ เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนให้การที่เป็นประโยชน์ แต่ขอยังไม่เปิดเผยสำนวนคดี 

"บิ๊กเต่า" จ่อนิมนต์"หลวงพ่ออลงกต"มาให้ข้อมูลเพื่อความชัดเจน
ส่วนกรณีคำให้การของหมอบีจะถูกหยิบยกมาพิจารณาในเรื่องการทุจริตหรือผิดปกติของวัดหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า หมอบีและวัดมีความเกี่ยวข้องกันหมด 


ส่วนจะมีการทุจริต หรือฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบแต่พบว่ามีความหมิ่นเหม่ ไม่อยากให้พุ่งเป้าไปที่การดำเนินคดีอยู่ระหว่างหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ใช้เวลาไม่นานจะมีความชัดเจนแน่นอน แต่ขณะนี้มองว่า วัดมีความผิดปกติและหมิ่นเหม่ในข้อกฎหมาย


ทั้งนี้ เมื่อ 30 ปีที่แล้ว วัดพระบาทน้ำพุมีการช่วยดูแลประชาชนรักษาโรคเอดส์ แต่เมื่อเวลาผ่านไปการบริจาค มีเงินจำนวนมหาศาลไหลเข้าวัด และมีการตั้งกองทุนดูแลเงินบริจาคต่อเนื่อง  และมีการไหลออกของเงิน ซึ่งมองว่าเป็นความผิดปกติ เนื่องจากจำนวนเงินบริจาคจำนวนมหาศาล ไม่สอดคล้องกับจำนวนที่เข้ารับษาที่วัดลดลง และมียาที่รักษาโรคเอดส์แพร่หลายมากขึ้น


รวมถึงการนำเงินจำนวนมหาศาลไปฝากบุคคลอื่น หลายกลุ่มทั้งภายในและภายนอกวัด  จึงต้องตรวจสอบว่า เกิดไรขึ้น


ย้ำเหตุที่ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาหรือออกหมายจับผู้ใดได้นั้น ย้ำว่าเรื่องเกิดขึ้นมา ตั้งแต่ 20-30 ปี ต้องตรวจสอบความเชื่อมโยงแต่ละเหตุการณ์ 


ต้องการให้มีหลักฐานที่ชัดเจน รัดกุม ทั้งพยานหลักฐาน และสามารถตอบสังคมได้ 
ส่วนการตรวจสอบครั้งนี้จะเจอตอ หรือไม่ ยืนยันว่า ไม่มี  ทั้งนี้ วัดยังสามารถดำเนินงานได้ตามปกติ รวมถึงการเปิดรับบริจาคจากประชาชน