จับตา กัมพูชา เพิ่มกำลังทหารชายแดน กองทัพภาคที่2 ตรวจพบ โดรน 50ลำ

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา พบโดรน กว่า 50 ลำ คาดว่าฝั่งกัมพูชามีการเพิ่มกำลังทหาร

กองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ประจำวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 14.00 น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้  สถานการณ์โดยรวม ตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ(โดรน) ของฝ่ายตรงข้าม ในพื้นที่ชายแดน  37 ลำ พื้นที่ตอนใน 13 ลำ และตรวจพบการอพยพของประชาชนกัมพูชาพื้นที่ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร

 

อีกทั้งยังตรวจพบแสงอินฟาเรด 10 จุด กำลังเคลื่อนที่จากหลังเขาพนมประสิทธิโส ขึ้นไปบนเขาห่างจากจุดตรวจ ประมาณ 1-2 กม. คาดว่ามีการเพิ่มกำลัง  ฝ่ายเรายังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในเขตอธิปไตยของไทย มีการเตรียมพร้อมและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยึดมั่นตามข้อตกลงของการประชุม GBC  ที่ผ่านมา 

กรณีเหตุการณ์ที่มีกำลังพลปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ประชาชนในพื้นที่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 68 เวลา 00.45 น. ส่งผลให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย

จับตา กัมพูชา เพิ่มกำลังทหารชายแดน กองทัพภาคที่2 ตรวจพบ โดรน 50ลำ
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว กำลังพล ร้อย.ร.1623 ได้ยินเสียงปืนดังต่อเนื่องประมาณ 10 นัด บริเวณถนนข้างวัด บ.เขื่อนแก้ว อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ต่อมา หน่วยได้ดำเนินการตรวจสอบยอดกำลังพล และพบว่า พลฯ รัฐภูมิ เทพศิริ สังกัด ร้อย.ร.1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมนำอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่งออกไป


ทั้งนี้ หน่วยในพื้นที่ได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เข้าร่วมตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นมีข้อมูลสอดคล้องกันว่า พลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ออกค้นหาอย่างต่อเนื่อง

 กระทั่งเวลา 10.40 น. เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบชายแต่งกายชุดทหาร นอนคว่ำหน้า ถอดหมวกเหล็ก โดยมีอาวุธปืนเล็กยาวเอ็ม 16 วางอยู่ข้างกาย บริเวณห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร การปฏิบัติเป็นไปอย่างรอบคอบ โดยใช้โดรนตรวจสอบทางอากาศ และจัดกำลังพลเข้าปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าว

 

ภายหลังการตรวจสอบยืนยันว่าเป็น พลทหาร รัฐภูมิ เทพศิริ ซึ่งได้ใช้อาวุธปืนประจำกายทำการอัตวินิบาตกรรมจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ในส่วนของสาเหตุ และแรงจูงใจ หน่วยจะดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน และรายงานความคืบหน้าต่อไป


การดำเนินงานด้านจิตอาสา กำลังพลจิตอาสาพระราชทาน มทบ.25 ร่วมอำนวยความสะดวก ในพิธีบำเพ็ญกุศลศพ และพิธีพระราชทานเพลิงศพ ประชาชนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา ณ ศาลาบำเพ็ญกุศล วัดประทุมเมฆ ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์

จับตา กัมพูชา เพิ่มกำลังทหารชายแดน กองทัพภาคที่2 ตรวจพบ โดรน 50ลำ


ศอ.จอส. พระราชทาน จ.สุรินทร์ โดย นอภ.สังขะ, ส่วนราชการ, ผู้นำชุมชม, ชุด ชป.กร.กกล.สุรนารีที่ 220, สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอสังขะที่ 8 และประชาชนจิตอาสา ลงพื้นที่ดำเนินการซ่อมแซมบ้านประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์  ณ บ้านเลขที่ 68 บ.ไทยสมบูรณ์ ม.2 ต.บ้านชบ อ.สังขะ จ.สุรินทร์

จับตา กัมพูชา เพิ่มกำลังทหารชายแดน กองทัพภาคที่2 ตรวจพบ โดรน 50ลำ
         

ศอ.จอส. พระราชทาน  จ.บุรีรัมย์, รอง ผอ.รมน.จังหวัด บ.ร.(ท.), จิตอาสาพระราชทาน ร่วมกับทีมเยียวยาจิตใจ รพ.ละหานทราย, อสม.ประจำหมู่บ้าน เข้าเยี่ยมพบปะให้กำลังใจญาติ ของ ร.ต. ธีรยุทธ กระจ่างทอง กำลังพลที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ณ บ.หนองยาง    ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ญาติผู้เสียชีวิตมีกำลังใจดีขึ้น คลายความโศกเศร้า

 

  • ข่าวปลอม "ทหารกัมพูชา"ปลดธงชาติไทย รื้อถอนแนวรั้วลวดหนามแบบหีบเพลง


กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงให้พี่น้องประชาชนทราบว่า ตามที่ปรากฏข่าวสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่ามีกำลังทหารกัมพูชาเข้าปลดธงชาติไทย พร้อมรื้อถอนแนวรั้วลวดหนามแบบหีบเพลง ซึ่งฝ่ายทหารไทยได้วางเป็นแนวกั้นบริเวณฐานปฏิบัติการซำแต ใกล้ปราสาทตาเมือนธม นั้น
จับตา กัมพูชา เพิ่มกำลังทหารชายแดน กองทัพภาคที่2 ตรวจพบ โดรน 50ลำ
จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า บริเวณดังกล่าวมีป้ายอักษรภาษาเขมรระบุว่า “เดโช เบาะสโบว ซำแต” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามพื้นที่ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 500 เมตร โดยฐานเสาธงที่ปรากฏในภาพ คาดว่าเป็นเสาธงของหน่วยทหารกัมพูชาในพื้นที่ และมีการตัดต่อภาพให้เป็นธงชาติไทย ทั้งนี้ ฝั่งกัมพูชาพื้นที่ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์ทางทหาร “เดโช เบาะสะเบา ซำแต”

กองทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่ เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ไม่ปรากฏเหตุการณ์ตามที่มีการกล่าวอ้างในสื่อสังคมออนไลน์แต่อย่างใด จึงขอยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่เป็นความจริง(Fake News)