"สนธิญา" ลุกปกป้อง "หลวงพ่ออลงกต" ชี้ศรัทธาทำเพื่อผู้ป่วยมา 30 ปี

 เพจเฟซบุ๊ก ทนายคู่ใจ เผย "สนธิญา สวัสดี" ยื่นหนังสือต่อสำนักพุทธฯ ขอความเป็นธรรมแทน "หลวงพ่ออลงกต" ชี้แม้ไม่รู้จักส่วนตัว แต่ศรัทธาในความดีที่ท่านทำเพื่อผู้ป่วยเอดส์มากว่า 30 ปี ระบุว่า  “สนธิญา” ยื่นหนังสือต่อสำนักพุทธฯ ขอความเป็นธรรมแทน “หลวงพ่ออลงกต” ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เชื่อมั่นในความดี


 
 
 
 

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้เข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมแก่พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี ภายหลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการวัด รวมถึงการดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์

นายสนธิญาเปิดเผยว่า ตนเคยเดินทางไปเยี่ยมชมวัดพระบาทน้ำพุเมื่อราว 28-29 ปีก่อน สมัยยังเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพื่อทำรายงานเกี่ยวกับผู้ป่วยโรคเอดส์ ซึ่งในยุคนั้นสังคมยังไม่ยอมรับผู้ติดเชื้อและมักถูกผลักไสออกจากชุมชน แต่หลวงพ่ออลงกตและวัดพระบาทน้ำพุได้เปิดประตูต้อนรับและเป็นที่พึ่งสุดท้ายของคนเหล่านี้มาโดยตลอด
 

 
นายสนธิญา ย้ำว่า แม้ไม่เคยรู้จักหลวงพ่ออลงกตเป็นการส่วนตัว แต่เชื่อมั่นในความดีและการปฏิบัติของท่าน ทั้งยังยอมรับว่าการบริหารองค์กรขนาดใหญ่อย่างวัดพระบาทน้ำพุตลอดเวลากว่า 30 ปี ย่อมมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้เป็นเรื่องธรรมดา
 
 

นายสนธิญายังตั้งคำถามถึงผู้ที่ออกมาโจมตีหลวงพ่ออลงกตว่า เคยลงพื้นที่ไปเห็นสภาพจริงของผู้ป่วยหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อย้อนไป 30 ปีก่อน ซึ่งผู้ป่วยโรคเอดส์ต้องเผชิญชีวิตที่ยากลำบากและแทบไม่มีที่พึ่งพิงใด ๆ พร้อมทั้งกล่าวว่า หากสังคมล้มหลวงพ่ออลงกตได้จริง ผู้ป่วยที่ถูกทอดทิ้งเหล่านี้จะไปอยู่ที่ไหน
 
หากมีการตรวจสอบอย่างเป็นระบบและเป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินบริจาคหรือกรณีอื่น ๆ และพบว่าหลวงพ่ออลงกตมีความผิดจริง ตนก็พร้อมยอมรับผลการตรวจสอบนั้น
 
ในวันพฤหัสบดีนี้ ตนมีความตั้งใจจะเดินทางไปที่วัดพระบาทน้ำพุเพื่อให้กำลังใจหลวงพ่ออลงกต และจะขอเข้าพบเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงทุกประเด็นที่ถูกกล่าวถึง ทั้งในเรื่องการโอนที่ดินและการบริหารเงินบริจาค เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นธรรม
 
นายสนธิญา ยังย้ำถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนาและความเคารพต่อพระสงฆ์ พร้อมอธิบายว่าการดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 ที่กำหนดให้พิทักษ์และธำรงรักษาสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยไม่มีเจตนาจะกล่าวโทษหรือโจมตีผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ แต่เพียงขอให้ทุกฝ่ายใช้เหตุผลและความเป็นธรรมเป็นที่ตั้ง



ขอบคุณข้อมูลจาก ทนายคู่ใจ