คุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ รู้ไว้ ดื่มมัทฉะมากไปอาจเสี่ยงภาวะ "โลหิตจาง" ได้

ดื่มมัทฉะมากไปอาจเสี่ยงภาวะ โลหิตจาง ได้ คุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ กรมอนามัยแนะนำให้รับประทานมัทฉะในปริมาณที่พอดีประมาณ 1-2 แก้วต่อวัน

คุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ รู้ไว้ ดื่มมัทฉะมากไป อาจเสี่ยงภาวะ โลหิตจาง ได้

 

ดื่มมัทฉะเกิน 2 แก้วต่อวัน เสี่ยงโลหิตจาง ข้อมูลข้างต้นเป็นข่าวจริง เพื่อช่วยลดความเสี่ยง กรมอนามัยแนะนำให้รับประทานมัทฉะในปริมาณที่พอดีประมาณ 1-2 แก้วต่อวัน รับประทานน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เว้นระยะห่างระหว่างการรับประทานมัทฉะ กับมื้ออาหารอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง รับประทานผักหรือผลไม้ที่มีวิตามินซี และหากเป็นกลุ่มเสี่ยงเช่น ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ สตรีมีครรภ์ ผู้ที่กินมังสวิรัติ หรือผู้ที่มีภาวะขาดธาตุเหล็ก ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก่อนบริโภคมัทฉะหรือชาในปริมาณมาก

 

คุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ รู้ไว้ ดื่มมัทฉะมากไปอาจเสี่ยงภาวะ โลหิตจาง ได้

ข้อมูลเชิงลึกและกลไกการทำงาน

 

แทนนินกับธาตุเหล็ก แทนนินจะจับตัวกับธาตุเหล็กในลำไส้ ทำให้ธาตุเหล็กไม่สามารถถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ การบริโภคเครื่องดื่มที่มีแทนนินสูง เช่น ชา กาแฟ หรือมัทฉะ ในปริมาณมากและบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในมื้ออาหารที่มีธาตุเหล็กสูง อาจลดประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุเหล็กลงได้

 

คุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ รู้ไว้ ดื่มมัทฉะมากไปอาจเสี่ยงภาวะ โลหิตจาง ได้

ความเสี่ยงต่อโลหิตจาง หากร่างกายไม่ได้รับธาตุเหล็กเพียงพออย่างต่อเนื่อง อาจนำไปสู่ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (Iron-deficiency anemia) ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายมีเม็ดเลือดแดงไม่เพียงพอต่อการขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ และซีดเซียวได้

 

  หน่วยงานที่ตรวจสอบ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข