- 25 ส.ค. 2568
“หมอเจด” ชี้ 10 มะเร็ง ที่ผู้หญิงไทยต้องระวัง พร้อมอายุเริ่มตรวจ และ วิธีคัดกรองง่าย ๆ เจอก่อนรักษาหายเกือบ 100%
"หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า
10 มะเร็งใน ผู้หญิง เช็กให้ไว ก่อนสายเกินป้องกัน !
อยากพูดเรื่องนึงให้คุณผู้หญิงทุกคนฟังนะ
หลายคนใส่ใจสุขภาพ กินอาหารดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
แต่พอพูดถึง “การตรวจมะเร็ง” หลายคนยังสับสนอยู่เลยว่า ต้องตรวจอะไรบ้าง? เริ่มอายุเท่าไหร่? ทุกปีไหม? หรือรอให้มีอาการก่อนค่อยไปตรวจ?
ความจริงคือมะเร็งหลายชนิด ไม่มีอาการเตือนชัดเจน กว่าจะรู้ตัวก็มักจะสายไปหน่อยแล้ว การตรวจคัดกรองจึงเป็นเหมือน “เกราะป้องกัน” ที่ช่วยให้เราเจอก่อน
รักษาได้ง่ายกว่า ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า และที่สำคัญคือ ถ้าเจอตั้งแต่ระยะแรก ๆ โอกาสหายเกือบ 100% เลยนะครับ
วันนี้ผมเลยอยากทำ ลิสต์ 10 มะเร็งที่ผู้หญิงไทยควรตรวจ พร้อมอายุเริ่มต้นและวิธีตรวจที่เหมาะสม เล่าแบบง่าย ๆ เอาไปใช้จริงได้
1. มะเร็งเต้านม – ตรวจแมมโมแกรม + อัลตราซาวด์
•เหตุผลที่ควรตรวจ ก็เพราะมะเร็งเต้านมคือ มะเร็งอันดับ 1 ของผู้หญิงไทย และเป็นอันดับต้น ๆ ของทั้งโลกเลยนะ
•แล้วเริ่มตรวจเมื่อไหร่
•คนทั่วไป: อายุ 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจแมมโมแกรมร่วมกับอัลตราซาวด์ทุกปี (บางแนวทางบอก 2 ปีครั้งก็ได้ แต่หมอแนะนำทุกปีจะมั่นใจกว่า)
•คนเสี่ยงสูง: ถ้าแม่ ป้า ยาย พี่สาว เคยเป็น หรือมีพันธุกรรม BRCA ให้เริ่มตรวจเร็วกว่า คือประมาณ 25 ปี หรือเร็วตามที่แพทย์เห็นสมควร
นอกจากนี้ผู้หญิงทุกคนควร คลำเต้านมตัวเองเพื่อตรวจเป็นประจำนะครับ ทุกวันหลังอาบน้ำก็ได้
2. มะเร็งปากมดลูก – HPV DNA หรือแป๊ปสเมียร์
•สาเหตุหลักมาจากเชื้อ HPV ถ้าเจอเร็วรักษาง่าย ไม่ต้องรอให้เป็นมะเร็งก่อน
•เริ่มตรวจ 25 ปีขึ้นไป สำหรับคนทั่วไป
แต่ถ้าเริ่มมีเพศสัมพันธ์เร็ว เช่น มีลูกตั้งแต่อายุน้อย → ให้นับบวกไป 3 ปี เช่น คลอดลูกตอน 18 ปี ก็ควรตรวจตอน 21 ปี
•วิธีตรวจ ก็จะมีแบบแป๊ปสเมียร์ ซึ่งปัจจุบันเราก็มีการตรวจ HPV DNA ซึ่งอันนี้ก็ดีตรง สะดวกกว่าการทำแป๊ปสเมียร์แบบเดิม
•ถ้าผลผิดปกติอย่าเพิ่งตกใจ บางครั้งเป็นการติดเชื้อที่ร่างกายหายเองได้ แต่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
3. มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก – FIT test + ส่องกล้อง
อันนี้เป็นมะเร็งที่มีแนวโน้มเจอสูงขึ้นมากในไทย ทั้งชายและหญิง ที่น่ากลัวคือ มักไม่แสดงอาการจนระยะลุกลาม
•แนะนำเริ่มตรวจ 45 ปีขึ้นไป
•หรือถ้ามีญาติสายตรงเป็นมะเร็งลำไส้ → ให้เริ่มเร็วกว่า เช่น 40 ปี หรือเร็วกว่าญาติเป็น 10 ปี
•วิธีตรวจ
•เบื้องต้นตรวจอุจจาระหาเลือดแฝง (FIT test) ทุกปี
•มาตรฐานส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ทุก 5–10 ปี แล้วแต่หมอแนะนำ
4. มะเร็งตับ – อัลตราซาวด์ + ตรวจเลือด
กลุ่มคนที่คววรตรวจก็จะเป็นกลุ่มคนที่เป็น ไวรัสตับอักเสบบี/ซี, มีตับแข็ง, ดื่มเหล้าหนัก รวมถึงไขมันพอกตับด้วยนะ
•วิธีตรวจ:
•อัลตราซาวด์ช่องท้อง → หาก้อนในตับ
•ตรวจเลือดค่า AFP → ถ้ามีมะเร็งตับ ค่าอาจสูงขึ้น
•ความถี่อยู่ที่ทุก 6–12 เดือน ในกลุ่มเสี่ยง
5. มะเร็งปอด – Low-dose CT สำคัญ
อันนี้ก็เกิดขึ้นได้ แม้จะเป็นผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่ แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงอื่น เช่น ควันบุหรี่จากสิ่งแวดล้อม ฝุ่น PM 2.5 หรือบุหรี่ไฟฟ้า
•การตรวจแบบ Low-dose CT Scan เห็นชัดกว่าการเอกซเรย์ปอดธรรมดา
•ควรตรวจเมื่อ
•สูบบุหรี่จัด หรือใช้บุหรี่ไฟฟ้า
•มีญาติสายตรงเป็นมะเร็งปอด
•มีอาการไอเรื้อรัง หายใจติดขัด
6. มะเร็งกระเพาะอาหาร – กลุ่มเสี่ยงต้องระวัง
ถ้าเรามีความเสี่ยง เช่นเคยติดเชื้อ H. pylori หรือมีญาติเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร
•วิธีตรวจ
•ส่องกล้องกระเพาะอาหาร → ดูแผลหรือก้อน
•ตรวจหาเชื้อ H. pylori และรักษาหากพบ
ใครที่มีความเสี่ยงเช่น ถ่ายดำเหมือนยางมะตอย น้ำหนักลด อิ่มเร็ว อย่าชะล่าใจ รีบตรวจนะ
7. มะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลือง
ลองสังเกตดูครับ ถ้ามีสัญญาณเตือน เช่น ต่อมน้ำเหลืองโตที่คอ รักแร้ ขาหนีบ นานเกิน 2–3 เดือน แนะนำไปตรวจนะ
•วิธีตรวจคือ เจาะเลือด ตรวจร่างกาย และอาจต้องตัดชิ้นเนื้อมาตรวจ
•เพิ่มอีกนิดนึงว่าโรคนี้เจอได้ทุกวัย เด็กก็เป็นได้
8. มะเร็งรังไข่และมดลูก – ตรวจภายในทุกปี
มะเร็งกลุ่มนี้เจอในผู้หญิงไทยเยอะ และมักไม่มีอาการชัด
•เริ่มตรวจ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจภายในทุกปี
•วิธีตรวจ:
•ตรวจภายในโดยสูตินรีแพทย์
•อัลตราซาวด์ช่องท้อง/ทางช่องคลอดถ้าสงสัย
•ตรวจเลือด CA-125 อาจช่วยได้ แต่ไม่แม่นยำพอ
9. มะเร็งช่องปากและโพรงจมูก
•เสี่ยงในคนสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เคี้ยวหมาก รวมไปถึงคนที่ติดเชื้อ EBV ก็จะเสี่ยงมะเร็งโพรงจมูก ส่วนใครที่ติดเชื้อ HPV ก็เสี่ยงต่อมะเร็งช่องปาก
•วิธีตรวจ
•ตรวจช่องปากกับหมอฟันประจำ
•สังเกตแผลในปากที่หายยาก กลิ่นปากแรงผิดปกติ หรือเลือดกำเดาเรื้อรัง
10. มะเร็งผิวหนัง
อันนี้กลุ่มเสี่ยวคือ คนที่ผิวขาว ไวต่อแดด มีไฝปานจำนวนมาก หรือเคยโดนแดดแรง ๆ บ่อย
•วิธีตรวจ
•สังเกตไฝหรือก้อนที่เปลี่ยนสี เปลี่ยนขนาด หรือแผลไม่หาย
•ตรวจร่างกายด้วยตัวเองเดือนละครั้ง
ฝากด้วยนะทุกคนการตรวจสุขภาพสำหรับผู้หญิง ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่คือการดูแลตัวเองอีกแบบนึงนะ
อย่ารอให้มีอาการ อย่ารอให้ใครเตือน เพราะบางโรคไม่ได้ให้สัญญาณเตือนชัดเจนเสมอไป
การตรวจคัดกรอง จะช่วยให้เรารักษาได้ไว และมีโอกาสรอดมากกว่านะ
จำง่าย ๆ ว่า เต้านม 35 ปี / ปากมดลูก 25 ปี / ลำไส้ 45 ปี / รังไข่-มดลูก 40 ปี / ส่วนอื่น ๆ ตรวจตามปัจจัยเสี่ยง และที่สำคัญคือ “ถ้ามีญาติเป็นมะเร็ง ให้ตรวจเร็วขึ้นเสมอ”
สุดท้าย ฝากทุกคนว่า สุขภาพดีเป็นสิ่งที่เราวางแผนได้ เริ่มนัดตรวจประจำปี ทำตามลิสต์นี้ ก็จะเป็นอีกทางที่ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง






