"หมอเจด" เตือนพุงใหญ่อาจไม่ใช่แค่อ้วน ระวัง 5 โรคร้ายถึงชีวิต

อย่าชะล่าใจ "หมอเจด" เตือนพุงใหญ่อาจไม่ใช่แค่อ้วน ระวัง 5 โรคร้ายถึงชีวิต เผยอาการที่ควรสังเกต ต้องรีบพบแพทย์

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2568 นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ให้ความรู้ด้านสุขภาพ ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก หมอเจด ระบุว่า "พุงใหญ่อาจไม่ใช่แค่อ้วน ระวัง 5 โรคร้ายถึงชีวิต" หลายคนพอเห็นพุงโตขึ้นก็มักจะคิดทันทีว่า "อ้วนแล้วแน่ ๆ" แต่จริง ๆ แล้ว พุงใหญ่ไม่ได้มาจากไขมันเสมอไป บางครั้งมันคือสัญญาณเตือนโรคร้ายที่เกิดขึ้นในช่องท้องโดยที่เราไม่รู้ตัวนะครับ 

 

หมอเจด เตือนพุงใหญ่อาจไม่ใช่แค่อ้วน ระวัง 5 โรคร้ายถึงชีวิต

อันนี้ไม่ได้พูดให้กลัวนะ แต่อยากพูดให้ทุกคนสังเกต ถ้าใครอยู่ๆท้องก็ใหญ่ขึ้นมากกว่า 2-3 นิ้วใน 1-2 สัปดาห์ เป็นสัญญาณเตือนที่ต้องรีบไปหาหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุนะ เดี๋ยวเล่าให้ฟังนะว่า ว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้พุงโตขึ้น ทั้ง ๆ ที่น้ำหนักอาจจะไม่ได้เยอะขึ้นเลย


1. น้ำในช่องท้อง (Ascites)

หรือที่เรารู้จักกันก็คือท้องมานนะ เป็นภาวะที่มีของเหลวสะสมในช่องท้อง มักเกิดจากโรคตับ เช่น ตับแข็ง ตับอักเสบเรื้อรัง หรือแม้แต่มะเร็งบางชนิด มันเกิดจากตับเสียหายทำให้โปรตีนอัลบูมินต่ำ และความดันในเส้นเลือดดำพอร์ทัลสูง ของเหลวจึงซึมออกมาค้างในท้อง ลองนึกภาพถุงพลาสติกที่เราเติมน้ำเข้าไป ยิ่งน้ำเยอะก็ยิ่งป่อง พุงก็ตึงออกมาแบบเดียวกัน บางคนผิวหน้าท้องตึงจนเห็นเส้นเลือดฝอยเลย

 

  • อาการที่มักเจอร่วม คือ ขาบวม เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร น้ำหนักขึ้นเร็วโดยไม่รู้ตัว กางเกงที่เคยใส่หลวมกลับรัดแน่น ถ้าใครมีพุงโตขึ้นผิดปกติ โดยเฉพาะถ้ามีประวัติตับ เช่น เป็นไขมันพอกตับ ดื่มเหล้าเยอะ หรือเคยเป็นไวรัสตับ ควรไปหาหมอเพื่อตรวจ ไม่ใช่คิดแค่ว่า “กินเยอะ”


2. ก้อนเนื้อหรือมะเร็งในช่องท้อง

หลายคนท้องใหญ่ขึ้น ก็คิดว่าอ้วน แต่จริงๆมันอาจเกิดจากพุงโตเพราะมีก้อน เช่น ซีสต์รังไข่ เนื้องอกมดลูก หรือมะเร็งช่องท้อง เช่น มะเร็งรังไข่ มะเร็งลำไส้ เป็นเพราะว่าก้อนใหญ่กินพื้นที่ในท้องมากขึ้น บางชนิดยังสร้างฮอร์โมนหรือของเหลวเพิ่มอีก ทำให้พุงยิ่งขยาย

 

  • อาการที่เจอร่วมคือ แน่นท้อง อิ่มเร็ว น้ำหนักลดแบบไม่ได้ตั้งใจ ผู้หญิงบางรายประจำเดือนผิดปกติ บางคนก็มีอาการปวดท้องเรื้อรัง สังเกตตัวเองนะครับ ถ้าพุงโตเร็วผิดปกติ โดยเฉพาะมีอาการแน่นท้อง น้ำหนักลด ควรไปตรวจอัลตราซาวด์หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ อย่ามองข้าม

3. ความผิดปกติของฮอร์โมน (โรคต่อมไร้ท่อ)

โรคบางอย่างทำให้ร่างกายเก็บไขมันหรือน้ำมากกว่าปกติ เช่น โรคคุชชิง (Cushing’s syndrome) หรือภาวะไทรอยด์ต่ำ แล้วทำไมพุงถึงใหญ่  อย่างคุชชิงทำให้คอร์ติซอลสูง ไขมันจะไปสะสมที่พุง หลัง และคอ ส่วนไทรอยด์ต่ำทำให้เผาผลาญช้า น้ำหนักขึ้นง่าย

 

  • อาการที่เจอร่วมที่เจอเยอะๆ คือ หน้ากลม ขนดก ผิวบาง เหนื่อยง่าย มือเท้าบวม บางคนมีรอยแตกลายสีม่วงที่ท้อง ควรทำยังไงถ้ามีอาการร่วมชัดเจน เช่น หน้ากลม ขนดก น้ำหนักขึ้นเร็ว ควรไปเจาะเลือดตรวจฮอร์โมน


4. โรคหัวใจและโรคไต (ภาวะน้ำคั่ง) 

จริง ๆ โรคหัวใจล้มเหลวหรือโรคไตวายก็ทำให้ท้องใหญ่ขึ้นได้นะ  เพราะโรคพวกนี้ทำให้ร่างกายควบคุมน้ำไม่ได้ ของเหลวจึงคั่งอยู่ในร่างกาย รวมถึงในท้อง มักมีอาการขาบวม หน้าและหนังตาบวมร่วมด้วย

 

  • อาการที่เจอร่วมบ่อยๆคือ  เหนื่อยง่าย นอนราบไม่ได้ ต้องนั่งพิง หอบง่าย ปัสสาวะน้อยลง ถ้ามีอาการบวม น้ำหนักขึ้นเร็ว เหนื่อยง่าย ควรรีบตรวจ โดยเฉพาะคนที่เป็นเบาหวาน ความดัน


5.ภาวะลำไส้อุดตัน (Bowel obstruction)

มันคือภาวะที่ลำไส้ถูกอุดกั้น อาหาร น้ำ และแก๊สผ่านไม่ได้ อาจเกิดจากพังผืดหลังผ่าตัด ก้อนเนื้อ หรือไส้เลื่อน อาจมีการอุดตัน ความดันในลำไส้สูงขึ้น การไหลเวียนเลือดเสียไป เสี่ยงลำไส้ขาดเลือดและทะลุ บางทีเจออาการร่วม  ปวดท้องบีบ ๆ คลื่นไส้อาเจียน อึไม่ออก ตดก็ไม่ออกเลย ถ้าอุดตันรุนแรงอาจอันตรายถึงชีวิต


ถ้าพุงป่องเฉียบพลัน ปวดท้องรุนแรง อาเจียน ควรรีบไปโรงพยาบาลด่วน อย่ารอ พุงใหญ่ ไม่ได้หมายความว่า “อ้วน” เสมอไป แต่บางครั้งคือสัญญาณโรคร้าย  โดยเฉพาะถ้าโตเร็วผิดปกติ แบบนี้ห้ามนิ่งนอนใจ รีบไปตรวจดีกว่า ลองสังเกตตัวเองดู  อย่ารอให้อาการรุนแรงก่อน เพราะการรักษาโรคพวกนี้จะมีผลดีกว่า ถ้าได้รับการวินิจฉัยและรักษาในระยะเริ่มต้น 

 

ขอบคุณ FB : หมอเจด