แฉ พี่เลี้ยงเด็กสุดแสบ ครอบครัวช้ำโดนไป 2.5 แสน หลอกไม่เซ็นสัญญา

แชร์อุทาหรณ์ แฉพี่เลี้ยงเด็กสุดแสบ ครอบครัวช้ำโดนไป 2.5 แสน หลอกไม่เซ็นสัญญา แถมแอดมินศูนย์พี่เลี้ยงไม่ค่อยมีมารยาทในการสื่อสาร

เป็นเรื่องราวเตือนภัยเกี่ยวกับการจ้างพี่เลี้ยงเด็ก โดยเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 68 ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ลงกลุ่ม หางานดูแลผู้สูงอายุ พี่เลี้ยงเด็ก ระบุว่า... สวัสดีค่ะขออนุญาตนะคะ เตือนภัยคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังหาพี่เลี้ยงเด็กค่ะ เราอยากแชร์เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเรา เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้คนอื่น ๆ ระวังค่ะ

 

เมื่อเดือนมิถุนายน -กรกฎาคมที่ผ่านมา เราได้จ้างพี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่งมาดูแลลูกเรา ได้ติดต่อผ่านศูนย์ชื่อดังแห่งนึงในเชียงใหม่ และได้มีการเลือกพี่เลี้ยง เข้ามาทดลองงาน ทางศูนย์จัดพี่เลี้ยงคนนึงมาให้ บอกว่าเขาตรงตามที่เราต้องการ เขาทำงานเก่ง เราเลยตกลงจ้างคนนี้เข้ามาทดลองงานจำนวน 5 วันค่ะ ช่วงเวลา 5 วัน ที่ทดลองงาน พี่เลี้ยงมีการหลอกลวงให้ทางเราไม่เซ็นสัญญากับทางบริษัทและให้จ่ายเงินกับเขาโดยตรง เพื่อที่เขาจะไม่โดนหัก%

แฉ พี่เลี้ยงเด็กสุดแสบ ครอบครัวช้ำโดนไป 2.5 แสน หลอกไม่เซ็นสัญญา

และได้รับเงินค่าจ้างเต็มจำนวน เขาได้สร้างเรื่องมาหลอกเราว่าศูนย์ไม่มืออาชีพและเล่าเรื่องเสียๆ หายๆ ให้ทางเราฟัง จนที่บ้านเรากลัว ทำให้เราเชื่อใจและหลงเชื่อพี่เลี้ยงที่เจอกันและได้คุยกัน 5 วันมากกว่าศูนย์ค่ะ หลังจากนั้นดิฉันได้ตกเป็นเหยื่อของพี่เลี้ยงมิจฉาชีพผู้นี้ เขาได้หลอกให้เราโอนตัง อ้างว่าจะนำไปจ่ายศูนย์เพื่อเป็นค่าออกจากบริษัท จำนวนเงิน 10,000฿ (วันที่5 มิถุนายน 2568 )

 

พอทำงานกับเราก็มีเรื่องอ้างมากมาย ขอยืมเงินและจะให้หักจากเงินเดือน ไม่ว่าจะอ้างเรื่องซ้อมรถบ้าง พ่อป่วย พ่อเป็นเบาหวานบ้างเอย พ่อตาบอดบ้าง พ่อโดนตัดขาบ้างเอย พ่อเข้าห้อง icu ต่างๆนาๆ เราได้ซัพพอร์ตสำรองออกให้ก่อน *** ทำแบบนี้ซ้ำๆ 13 ครั้ง เป็นจำนวนเงินมากถึง 250,000 กว่าบาทค่ะ ***

แต่ละครั้งไม่มีเอกสารมาประกอบเลย พอเราถามไถ่เขาได้แต่ชักสีหน้า และอารมณ์เสียทำเรื่องของตัวเองเป็นเรื่องใหญ่และปล่อยประละเลยหน้าที่ของตัวเองไปในเวลาทำงาน จากที่เขาพักที่บ้านเรา เขาได้มีการขนของใช้ต่างๆ เพื่อเตรียมตัวหลบหน้าเรา กลัวเราถามถึงเรื่องเงินที่ยืมไป เขาได้ขอลาหยุดไปบ่อยๆ หลังๆที่จับได้ อ้างว่าไปส่งลูก กทม และมีแม่บ้านที่บ้านเราไปพบว่า เขาอยู่แถวละแวกนี้ไม่ได้ไป กทม แบบที่อ้างไว้ จึงทำให้เราไปแจ้งความดำเนินคดีกับพี่เลี้ยงมิจฉาชีพผู้นี้ค่ะ

 

*******ความน่าเชื่อถือที่เขาสร้างขึ้นคือ ทุกครั้งที่พี่เลี้ยงมิจฉาชีพมาทำงาน จะมีแม่มารับมาส่งเป็นประจำ เลยทำให้ดูมีความน่าเชื่อถือค่ะ**************

 

***** เหตุการณ์ที่เกิดกับครอบครัวเราครั้งนี้ มาจากการที่เราเชื่อคนง่าย ใจดีเกินจนเป็นเหตุ หรือเพราะ

 

(อาชีพพี่เลี้ยงเด็ก) ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเปราะบางได้ง่ายกันแน่คะ

 

ความบกพร่องของศูนย์ที่หละหลวมไม่คัดกรองคุณภาพคนก่อนส่งเข้าไปทำงานจริง หรือการบริการที่ไม่ทั่วถึง ไม่ได้ทำการดูแลตลอดตั้งแต่วันเริ่มส่งคนมาทำงาน อาทิเช่น ผู้จัดการเป็นคน ทำเด็กมาส่งให้กับเราเอง โดยที่ไม่ใช่พี่เลี้ยง เดินทางมาเองแบบไม่มีสังกัดค่ะ หลังจากทดลองงานได้ 5 วัน ทางศูนย์ไม่ได้มีการติดตามความคืบหน้าแต่อย่างใด ไม่ได้มีการมาหาถึงบ้านมาดูการทำงานของเด็กฝึกงานเลย จึงเป็นเหตุให้เข้าทาง พี่เลี้ยงโจรท่านนี้ค่ะ

แฉ พี่เลี้ยงเด็กสุดแสบ ครอบครัวช้ำโดนไป 2.5 แสน หลอกไม่เซ็นสัญญา

เราได้ลองเช็คข้อมูลพี่เลี้ยงมิจฉาชีพท่านนี้ มีรายชื่อโกงในกลุ่ม Blacklist ด้วยค่ะ และข้อมูลที่ส่งในใบสมัครมาให้เรา น้ำหนักจริง ก็เกินกว่าเอกสารข้อมูลด้วยค่ะ แถมยังมีโรคประจำตัว มีประจำเดือนที่มาเป็นเดือน เปื้อนคอกเด็กเลอะเทอะด้วยค่ะ

 

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ได้ผ่านมาแล้ว 41 วัน หลังจากดิฉันได้ไปแจ้งความไว้ จึงอยากจะมาโพสแจ้งเตือนเป็นอุทาหรณ์ เรื่องนี้ทำให้เราเข้าใจว่า เวลาหาพี่เลี้ยงเด็กไม่ใช่แค่ดูว่าถูกใจหรือเข้ากับลูกได้ แต่ต้อง ตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด

  • ขอเอกสารบัตรประชาชน/ทะเบียนบ้าน
  • สอบถามจากผู้ว่าจ้างเก่า
  • อย่าโอนเงินหรือให้ยืมเงินโดยไม่มีหลักฐาน

 

******* หวังว่าเรื่องนี้จะช่วยเตือนให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนรอบคอบมากขึ้นค่ะ ***********

 

ตั้งแต่วันก่อนที่ไปแจ้งความเราได้โทรไปถามไถ่เรื่องตังเขาบอกประกันเบี้ยวนัดต่างๆนาๆ จนถึงวันนี้ ผ่านมาประมาณ 41วัน พี่เลี้ยงมิจฉาชีพผู้นี้ไม่เคยมีการติดต่อแสดงความบริสุทธิ์ใดๆมาอีกเลยค่ะ

 

**แอดมินศูนย์พี่เลี้ยงไม่ค่อยมีมารยาทในการสื่อสารอีกด้วยค่ะ เอกสารต่างๆไม่แก้ไข จนเราต้องบรีฟเองประหนึ่งว่าเราเป็นเจ้าของศูนย์ค่ะ แอดมินคนนี้ทำงานสะเพร่ามากค่ะ ขอบคุณค่ะ

แฉ พี่เลี้ยงเด็กสุดแสบ ครอบครัวช้ำโดนไป 2.5 แสน หลอกไม่เซ็นสัญญา