- 28 ส.ค. 2568
เข้าใจแล้ว "หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ" ทำนายถูกได้ไง ถึงขนาดที่ "มดดำ คชาภา" ยังคอนเฟิร์มว่าของจริง อึ้งเลยเทคนิคนี้ นักต้มตุ๋นใช้บ่อย
"หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ" ที่หลายคนหลงเชื่อและศรัทธาในความแม่น ทำเอาหลายคนแม้กระทั่ง "มดดำ คชาภา" ยังคอนเฟิร์มว่า "หมอบีนี่แหละของจริง" แต่หลังจากที่ มีเรื่องราวออกมาเกี่ยวกับ หมอบี และ อดีตพระอลงกต ที่พัวพันกับการฉ้แโกงเงินหลายร้อยล้านจากจิตศรัทธาของชาวพุทธที่เชื่อมั่นและเลื่อมใส ทำให้สายมูเริ่ใมสงสัยว่า หมอบีทายแม่นได้ยังไง
โดยเรื่องนี้ทาง ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาท เปิดเผยผ่านเพจเฟซบุ๊ก สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์ วิเคราะห์เทคนิคของ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ที่ไม่ใช่แค่พูดเก่ง แต่ยังใช้เทคนิคถามนำเพื่อชี้ทางให้คู่สนทนาตอบไปตามกรอบที่เตรียมไว้ ทำให้คนฟังรู้สึกว่าเขารู้จริงแม่นยำ รวมทั้งยังกลายเป็นผู้ควบคุมบทสนทนาแทนผู้ถาม เทคนิคนี้ถูกนำไปใช้ได้ทั้งในวงการหมอดู ไปจนถึงการสอบสวนคดีจริงๆ
โพสต์ดังกล่าว ระบุว่า เมื่อดูคลิปของหมอบี ทั้งเก่าและใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการทายว่าเห็นผี ระลึกชาติ สัมภาษณ์คุณหนุ่ม หรือการชี้แจงกับนักข่าว จะเห็นว่าเขามีเทคนิคเฉพาะที่ใช้บ่อย คือการตั้ง คำถามนำ (leading questions) นอกเหนือจากการหาข้อมูลคู่สนทนามาล่วงหน้า เทคนิคนี้ทำให้ผู้ถูกถามเหมือนถูกชี้ทางให้ตอบไปตามกรอบที่เขาปูไว้
ตัวอย่างเช่น หากต้องการให้คู่สนทนาเอ่ยถึง แม่บ้าน ก็อาจถามว่า "ที่บ้านมีใครทำกับข้าวให้ใช่ไหมครับ ?" หรือ "ผู้หญิงที่บ้านชอบทำกับข้าวหรือเปล่า ?" สุดท้ายอีกฝ่ายก็มักตอบว่า "ใช่ครับ แม่ทำ" ซึ่งหมอบีก็จะหยิบตรงนี้มาต่อยอดได้ทันที วิธีการเช่นนี้ทำให้คนดูรู้สึกว่า แม่นจริง รู้จริง เมื่อนำเทคนิคดังกล่าวมาใช้ในตอนถูกซักถาม กลายเป็นการพลิกสถานการณ์ได้ จากการเป็น ผู้ถูกซักถาม กลายเป็น ผู้ควบคุมบทสนทนา
เช่น หากถูกถามตรง ๆ ว่า "คุณรู้เห็นกับเหตุการณ์นี้ไหม ?" แทนที่จะตอบว่า รู้ หรือ ไม่รู้ ก็อาจย้อนถามนำกลับ เช่น "คุณหมายถึงวันที่มีคนนั้นอยู่ด้วยใช่ไหมครับ ? " หรือ "ที่ว่ารู้เห็น หมายถึงเห็นด้วยตาเอง หรือหมายถึงได้ยินจากคนอื่น ?" เทคนิคนี้ ฉลาด เพราะปรับเกม ช่วยควบคุมทิศทาง ลดแรงกดดัน ซื้อเวลา และเลี่ยงคำตอบที่อาจเสียเปรียบ ใช้ได้ทั้งในการสร้างบรรยากาศสื่อวิญญาณ หรือแม้แต่ในการตอบคำถามจริง ๆ ที่มีเดิมพันสูง
มีงานวิจัยจำนวนมากชี้ว่า คำถามนำ สามารถบิดเบือนความทรงจำของคนได้ (memory distortion) โดยเฉพาะในสาขา cognitive psychology และ forensic psychology กลไกหลักคือ Misinformation Effect ข้อมูลที่ได้รับภายหลังเหตุการณ์ (post-event information) สามารถ เขียนทับ ความทรงจำจริงของเราได้ อีกทั้งยังมี Source Monitoring Error ที่ทำให้แยกไม่ออกว่าความจำบางอย่างมาจากสิ่งที่เห็นเอง หรือมาจากคำถาม / คำบอกเล่า ทำให้เชื่อมั่นว่าคือความจำของตนเอง
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นหมอดู หมอเดา นักต้มตุ๋น หรือแม้แต่ทนายความ ต่างก็ใช้เทคนิคนี้ทั้งสิ้น ไม่ขอพูดถึงคนที่เชื่อว่ามี สิ่งลี้ลับ เพราะตนเองยังไม่เคยเจอ จึงพูดแค่เพียงสิ่งที่สังเกตเห็นเท่านั้น"
ข้อมูลจาก สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์






