เปิด 4 มุกเด็ด “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่หลอกคนไทยจนหมดตัว

หยุดก่อนโอน เปิด 4 มุกเด็ด "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ที่หลอกคนไทยจนหมดตัว มาทำความรู้จักกับกลโกงยอดฮิตและวิธีป้องกันตัวเองที่ได้ผลจริงกัน

ในยุคที่การสื่อสารก้าวหน้า "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ก็ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลอกลวงที่แนบเนียนขึ้น โดยใช้ความกลัวและความตกใจมาเป็นตัวช่วย เพื่อไม่ให้คุณตกเป็นเหยื่อ มาทำความรู้จักกับกลโกงยอดฮิตและวิธีป้องกันตัวเองที่ได้ผลจริงกัน

เปิด 4 มุกเด็ด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกคนไทยจนหมดตัว

เปิด 4 มุกเด็ด "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ที่หลอกคนไทยจนหมดตัว 

 

4 กลโกงที่ต้องระวัง

 

1. ข่มขู่ด้วยคดีร้ายแรง: มิจฉาชีพจะอ้างตัวเป็นตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐ แล้วหลอกว่าคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรมร้ายแรง เช่น ฟอกเงิน หรือหนีภาษี จากนั้นจะหลอกให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบหรือใช้เป็นค่าประกันตัว

 

2. หลอกให้โอนเงินเพื่ออัปเดตข้อมูล: อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร บริษัทขนส่ง หรือหน่วยงานอื่นๆ แจ้งว่าบัญชีมีปัญหา หรือพัสดุตกค้าง แล้วหลอกให้โอนเงินเพื่อยืนยันตัวตนหรือแก้ไขข้อมูล

 

3. อ้างว่าถูกรางวัลใหญ่: โทรมาแสดงความยินดีว่าคุณได้รับรางวัลเงินสดจำนวนมหาศาล แต่มีเงื่อนไขให้คุณต้องจ่ายค่าธรรมเนียมหรือค่าภาษีเพื่อแลกกับรางวัลนั้น

 

4. ปลอมเป็นคนรู้จัก: ใช้ข้อมูลส่วนตัวที่หลุดรั่วมาแอบอ้างเป็นคนใกล้ชิด เพื่อหลอกว่ากำลังเดือดร้อน หรือประสบอุบัติเหตุ และขอให้คุณโอนเงินให้

 

เปิด 4 มุกเด็ด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกคนไทยจนหมดตัว

วิธีป้องกันตัวเองที่ต้องจำให้ขึ้นใจ

  1. ตั้งสติและตั้งข้อสงสัย: เมื่อได้รับสายที่น่าสงสัย อย่าตกใจตามสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ให้ตั้งสติแล้วคิดเสมอว่าไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนที่จะมาขอให้คุณโอนเงินเพื่อตรวจสอบ
  2. อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวเด็ดขาด: ไม่บอกรหัสผ่าน, เลขบัตรประชาชน, เลขบัญชี หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ให้กับใครก็ตามที่โทรมา
  3. วางสายแล้วตรวจสอบด้วยตัวเอง: หากอีกฝ่ายอ้างว่าเป็นหน่วยงานใด ให้วางสายทันที แล้วโทรกลับไปยังเบอร์โทรศัพท์อย่างเป็นทางการของหน่วยงานนั้นๆ เพื่อตรวจสอบข้อมูลด้วยตนเอง

 

การรู้เท่าทันคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด อย่าลืมส่งต่อข้อมูลนี้ให้กับคนใกล้ตัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพื่อช่วยกันลดความเสี่ยงจากการตกเป็นเหยื่อ