5 สัญญาณเตือนโรคหัวใจ ที่คนวัย 30-40 ปี ต้องรู้ก่อนสาย!

ทำไมคนวัย 30-40 ปีถึงมีความเสี่ยงโรคหัวใจมากขึ้น?

1. พฤติกรรมการกินที่ทำร้ายสุขภาพ: อาหารสำเร็จรูป อาหารแปรรูป และอาหารที่มีไขมันสูงและโซเดียมสูง กลายเป็นตัวเลือกที่สะดวกสำหรับคนวัยทำงานที่ไม่มีเวลาทำอาหารเอง การกินอาหารเหล่านี้เป็นประจำจะทำให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูงและเพิ่มความดันโลหิต ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือด

2. ความเครียดจากการทำงานและชีวิตประจำวัน: ภาวะความเครียดสะสมจากภาระหน้าที่การงานและปัญหาต่างๆ ในชีวิต ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งส่งผลเสียต่อการทำงานของหลอดเลือดและหัวใจในระยะยาว

3. ขาดการออกกำลังกาย: การใช้ชีวิตแบบนั่งทำงานอยู่กับที่นานๆ และไม่มีเวลาออกกำลังกาย ทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มที่ เกิดภาวะอ้วนลงพุง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจ

4. พักผ่อนไม่เพียงพอ: การนอนดึกหรือมีเวลานอนน้อยกว่า 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียและระบบการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดผิดปกติได้

5. ติดสุราและสูบบุหรี่: นิสัยเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญที่ทำลายหลอดเลือดทั่วร่างกายโดยตรง ทำให้หลอดเลือดตีบแคบลงและนำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้ง่ายขึ้น

สัญญาณเตือนที่ต้องใส่ใจ

แม้จะอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่หากเริ่มมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพหัวใจอย่างละเอียด

เจ็บหน้าอก หรือรู้สึกแน่นๆ เหมือนมีอะไรกดทับ

เหนื่อยง่าย แม้จะทำกิจกรรมปกติ

หายใจหอบถี่ โดยไม่มีสาเหตุ

ใจสั่น หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะบ่อยๆ

หน้ามืด หรือเป็นลม

ป้องกันไว้ดีกว่าแก้! ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมวันนี้ เพื่อสุขภาพหัวใจที่ดีในอนาคต

เลือกกินอาหารที่ดีต่อใจ: เน้นผักผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนจากปลาหรือเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ลดอาหารไขมันสูง เค็มจัด และหวานจัด

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: หาเวลาออกกำลังกาย 30 นาทีต่อวัน อย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน

จัดการความเครียด: ลองหาเวลาผ่อนคลายด้วยกิจกรรมที่ชอบ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ทำสมาธิ หรืออยู่กับธรรมชาติ

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ: ควรเข้านอนและตื่นให้เป็นเวลา เพื่อให้ร่างกายได้พักฟื้นอย่างเต็มที่

เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่: หากทำไม่ได้ ควรลดปริมาณลงให้ได้มากที่สุด เพราะนิสัยเหล่านี้ทำลายสุขภาพหัวใจโดยตรง