หนีไม่รอด สมาชิกแก๊งต้มตุ๋นหลอกครูเกษียณสูญเงิน 1.9 ล้าน

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล สว.กก.5 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 ร่วมกันจับกุม นายสุรัตน์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ จ.267/2568 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันสนับสนุนให้ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันสนับสนุนนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน"

 

 

สถานที่จับกุม สถานีขนส่งผู้โดยสาร ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากผู้เสียหายเป็นข้าราชการครูที่เกษียณอายุราชการแล้ว มีกลุ่มคนร้ายมาหลอกว่าจะได้รับเงินเกษียณอายุราชการ โดยให้ผู้เสียหายติดต่อไปที่เขตพื้นที่การศึกษาทุ่งสง ผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้ทำการติดต่อกับกลุ่มคนร้ายดังกล่าว และปฏิบัติตามวิธีการที่คนร้ายแนะนำ (ลักษณะเป็น Call Center)

จนสุดท้ายได้สแกน QR Code โอนเงินไปให้กับคนร้าย สูญเงินไป 1,900,000 บาท จากนั้นผู้เสียหายจึงร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ต่อมาจากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นบัญชีม้าในกลุ่มแถวที่ 4 นำมาสู่การขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับในคดีนี้

 

ก่อนทำการจับกุม เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายสุรัตน์ฯ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ จ.267/2568 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันสนับสนุนให้ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันสนับสนุนนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" ได้ปรากฏตัวอยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

 

 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว จนกระทั่งได้พบชายไทยมีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลตามหมายจับข้างต้น ปรากฏตัวอยู่ที่บริเวณสถานที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวและได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้น จนทราบว่าคือ นายสุรัตน์ เป็นบุคคลตรงตามหมายจับ จากนั้นจึงได้แสดงหมายจับให้ดู โดยอ่านให้ฟังและให้อ่านด้วยตนเองจนเป็นที่พอใจแล้ว รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมในคดีตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งให้นายสุรัตน์ทราบว่าจะต้องถูกจับในความผิดตามหมายจับ พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบแล้วทุกประการ จากนั้นนำตัวมาจัดทำบันทึกการจับกุม ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา