- 08 ก.ย. 2568
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แถลงการณ์กรณี แขก คำผกา หรือ ลักขณา ปันวิชัย ใช้ถ้อยคำล้อเลียน หมิว สิริลภัส พร้อมโยงถึงภาวะโรคซึมเศร้า
KEY
POINTS
ทั้งนี้ แม้การแสดงออกดังกล่าวจะเกิดขึ้นในพื้นที่ส่วนบุคคลบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และแม้คุณลักขณาจะได้ตัดสินใจยุติบทบาทการดำเนินรายการ “คุยคลายข่าว” ชั่วคราวแล้วก็ตาม สมาคมฯ ขอเน้นย้ำว่า ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนทุกคนยังคงมีพันธะทางจริยธรรม ที่จะต้องรักษามาตรฐานการแสดงออกให้เหมาะสม และไม่ใช้ถ้อยคำที่อาจนำไปสู่การดูหมิ่น กดทับ หรือสร้างความเกลียดชังต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย จึงขอเรียกร้องให้ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อทุกคนรักษามาตรฐานความรับผิดชอบทางวิชาชีพ และแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ เพื่อธำรงไว้ซึ่งความเชื่อมั่นและศรัทธาที่สังคมมีต่อสื่อมวลชน
กรณีประเด็นที่ทาง แขก คำผกา เอ่ยบูลลี่ "หมิว"สิริลภัส กองตระการ ส.ส.พรรคประชาชน ออกสื่อ ขณะจัดรายการสดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เกี่ยวกับการป่วยโรคซึมเศร้า จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมาจำนวนมาก ซึ่งส่งผลทำให้ "คำผกา" ประกาศยุติจัดรายการ ช่อง NBT ของรัฐบาลเพื่อไทยชั่วคราว ส่วนพิธีกรคนอื่นจัดตามปกติ
ล่าสุด วันที่ 8 กันยายน 2568 แถลงการณ์สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เรื่อง บทบาทสื่อมวลชนต่อการแสดงออกในที่สาธารณะ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ขอแสดงความห่วงใยต่อกรณีการแสดงออกของ คุณลักขณา ปันวิชัย ผู้ดำเนินรายการ ที่ได้ใช้ถ้อยคำล้อเลียน คุณสิริลภัส กองตระการ (ส.ส.พรรคประชาชน) พร้อมโยงถึงภาวะโรคซึมเศร้า ในการจัดรายการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเกียรติศักดิ์ของบุคคลและสร้างบาดแผลต่อผู้ป่วยที่กำลังเผชิญภาวะทางจิตใจ
สมาคมฯ เห็นว่า การแสดงออกดังกล่าวไม่สอดคล้องกับหลักจริยธรรมของวิชาชีพสื่อมวลชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้กระทำมีสถานะเป็นผู้ทำหน้าที่สื่อสาธารณะ ซึ่งควรยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคม เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำที่อาจนำไปสู่ความเกลียดชังหรือดูหมิ่นบุคคลใด
สมาคมฯ ขอย้ำว่า การทำงานสื่อมวลชนทุกแขนงต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของ การคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตามที่บัญญัติไว้ใน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 27 และควรตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและกลุ่มเปราะบางในสังคม






