- 11 ก.ย. 2568
ครอบครัว"นายเจียน" เหยื่อสิงโตขย้ำ น่ำไห้ทำพิธีเก็บศพตามความเชื่อของคนมอญ ด้านตัวแทน “ซาฟารีเวิลด์” โผล่ร่วมงาน มอบเงินเยียวยาครอบครัวก้อนแรก
คืบหน้ากรณีสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ เสียชีวิต11ก.ย.68 ที่วัดแป้นทองโสภาราม เขตคลองสามวา รถมูลนิธินำร่างของนายเจียนมาถึงที่วัด โดยทางครอบครัว ได้ทำพิธีตามความเชื่อโบราณของชาวมอญ นิมนต์พระ 4 รูป พร้อมเครื่องทำพิธีมาเตรียมไว้ ได้แก่ ดินปั้นห่อทอง ดอกกุหลาบ ดอกไม้ธูปเทียน และผ้าไตร ก่อนเริ่มขุดดินที่พื้นมาวางบนโลงศพ เรียงกับดินปั้นห่อทอง และสวดทำพิธี
ช่วงท้ายของการทำพิธี ญาติพี่น้องได้ร่วมกันวางดอกกุหลาบ และดินปั้นห่อทอง เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต ขณะที่นางสาวรัตนาภร จิตรภักดี ภรรยาของนายเจียน ก็ได้เดินทางมาจุดธูปไหว้ศพสามีเป็นคนสุดท้าย ก่อนจะเข้าไปเคาะหน้าโลงศพของสามี 1 ครั้ง พร้อมกับร่ำไห้เป็นลมพับล้มทั้งยืน นอกจากนี้ยังมีตัวแทนทางซาฟารีเวิลด์ ได้เดินทางมาร่วมงานที่วัดด้วย ก่อนพูดคุยกับน้องชายของนายเจียน และญาติๆ ใช้เวลาราว 20 นาที เยียวยาเบื้องต้นก่อน จำนวน31,500 บาท
ด้าน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมประกาศใช้มาตรการเร่งด่วน 4 ข้อ ได้แก่
1. สั่งปิดพื้นที่อันตรายเป็นการชั่วคราว: สั่งปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้ายในสวนสัตว์ที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบระบบความปลอดภัยและทบทวนระเบียบปฏิบัติอย่างละเอียด
2. ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย: ให้มีการตรวจสอบความแข็งแรงของกรง ระบบป้องกัน และอุปกรณ์หยุดยั้งสัตว์ให้ได้มาตรฐาน พร้อมทั้งจัดให้มีการซ้อมแผนเผชิญเหตุเป็นประจำทุกแห่ง
3. สำรวจการครอบครองสัตว์ป่าทั่วประเทศ: สั่งการให้สำรวจการครอบครองสัตว์ป่าทั่วประเทศ ทั้งของสวนสัตว์และบุคคลทั่วไป เพื่อควบคุมให้การเลี้ยงดูเป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานที่กำหนด
4. ปรับพฤติกรรมสิงโตที่ก่อเหตุ: สั่งให้กักกันสิงโตทั้ง 5 ตัวที่ร่วมกันทำร้ายเจ้าหน้าที่ เพื่อปรับพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด เนื่องจากแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์
นอกจากนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังได้สั่งให้เจ้าหน้าที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าเข้าตรวจสอบซาฟารีเวิลด์เพิ่มเติมในทุกมิติ ทั้งด้านโครงสร้างความปลอดภัย มาตรการควบคุมสัตว์ และแผนฉุกเฉิน โดยยืนยันว่าจะอนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้ายได้อีกครั้ง เมื่อสวนสัตว์สามารถสาธิตมาตรการความปลอดภัยได้อย่างชัดเจน
นายอรรถพลกล่าวเน้นย้ำว่า เหตุการณ์ครั้งนี้อาจมีสาเหตุมาจาก "ภัยจากความเคยชิน" ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลสัตว์มาเป็นเวลานานจนประมาทและละเลยมาตรการความปลอดภัย โดยเฉพาะการหันหลังให้สัตว์ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่กระตุ้นสัญชาตญาณการล่าของสิงโต จึงเป็นไปได้ว่าความบกพร่องด้านการปฏิบัติงานเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่เหตุการณ์ดังกล่าว





