"หมอเจด" เตือนแล้วนะ ระวังนั่งห้องน้ำนาน เสี่ยง 5 โรคแบบไม่รู้ตัว

เตือนแล้วนะ "หมอเจด" ให้ความรู้ด้านสุขภาพ ระวังนั่งห้องน้ำนาน เสี่ยง 5 โรคแบบไม่รู้ตัว แนะวิธีดูแลตัวเองง่าย ๆ ในการขับถ่าย

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2568 "หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้โพสต์ให้ความรู้ด้านสุขภาพ เตือนพฤติกรรมคนที่ชอบนั่งในห้องน้ำเป็นเวลานาน ระวังเสี่ยงโรคแบบไม่รู้ตัว! โดยระบุว่า  ระวัง ! นั่งห้องน้ำนาน = เสี่ยงโรคแบบไม่รู้ตัว!

 

หมอเจด เตือนแล้วนะ ระวังนั่งห้องน้ำนาน เสี่ยง 5 โรคแบบไม่รู้ตัว

เชื่อว่าแทบทุกคนเป็นแบบนี้นะ เข้าห้องน้ำทีไร มือก็คว้ามือถือไปด้วย นั่งไถนู่นไถนี่ เพลินจนลืมตัวว่าตัวเองขับถ่าย แต่รู้ไหมว่าพฤติกรรมเล็ก ๆ แบบนี้เนี่ย มันทำให้หลายคนป่วยโดยไม่รู้ตัวเลยนะ วันนี้เลยอยากมาเล่าให้ฟัง ว่าการ "นั่งแช่นาน ๆ ในห้องน้ำ" มันทำให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย บางโรคคือใกล้กว่าที่คิดอีก ลองไปดูกัน


1. ริดสีดวงทวาร

โรคยอดฮิตประจำคนที่ชอบนั่งเพลินในห้องน้ำเลย ก็คือ "ริดสีดวง" นี่แหละ เพราะเวลาเรานั่งนาน ๆ โดยเฉพาะถ้านั่งในท่าขับถ่าย (แม้ไม่ได้เบ่งตลอดเวลา) มันจะทำให้เลือดไหลมาคั่งอยู่ตรงหลอดเลือดดำรอบรูทวารเยอะขึ้น จนมันโป่งออกมาเป็นก้อน ช่วงแรก ๆ อาจมีแค่เลือดออกเวลาถ่าย หรือคัน ๆ แสบ ๆ แต่ถ้าปล่อยไว้นานไม่ดูแล ไม่ปรับพฤติกรรม ก็มีสิทธิ์เจ็บปวด บวม หรือถึงขั้นต้องไปผ่าตัดเอาก้อนริดสีดวงออกเลยทีเดียว

ทางแพทย์เขาอธิบายว่า มันเป็นเรื่องของแรงดันในช่องท้องที่เพิ่มขึ้น ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก พอเลือดค้างอยู่ตรงนั้นมากขึ้น ก็เกิดอาการโป่งพองขึ้นมานั่นเอง

 

2. ท้องผูก

หลายคนเข้าใจผิดว่า "นั่งไว้นาน ๆ เดี๋ยวก็ปวดถ่าย" แต่จริง ๆ มันกลับกันเลย การนั่งแช่นาน ๆ ทำให้ลำไส้เสียจังหวะ แถมยังดื้อกับสัญญาณปวดถ่ายอีกต่างหาก เวลาเรากลั้นถ่ายหรือนั่งรอเกินเหตุ ลำไส้จะดูดน้ำกลับจากก้อนอุจจาระ ทำให้อึแข็ง ถ่ายยาก เบ่งนาน แล้วก็เข้าสู่วงจรนรกท้องผูก เบ่งจนเป็นริดสีดวงอีก ท้องผูกเรื้อรังไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะมันส่งผลต่อชีวิตประจำวันได้เยอะเลยนะ ไหนจะต้องใช้เวลาถ่ายนาน เจ็บท้อง อึดอัด แถมพอถ่ายยากก็ยิ่งเครียดอีก

3. ลำไส้แปรปรวน (IBS)

หลายคนไม่รู้ตัวว่า เวลานั่งเล่นมือถือในห้องน้ำนาน ๆ นอกจากจะทำให้ "นั่งนานเกินไป" แล้ว ยังมีอีกอย่างที่เกิดขึ้นคือ เรามักจะเพลินจนไม่โฟกัสกับการขับถ่ายจริง ๆ 

บางทีรู้สึกว่า "ถ่ายเสร็จแล้ว" ทั้งที่ยังมีอุจจาระตกค้าง ทำให้รู้สึกถ่ายไม่สุด พอทำแบบนี้บ่อย ๆ อาจรบกวนจังหวะการทำงานของลำไส้ 

แม้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าการใช้มือถือในห้องน้ำจะทำให้เป็น IBS โดยตรง แต่ในคนที่มีความเสี่ยงหรือมีความเครียดสะสม พฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นตัวกระตุ้นให้อาการแย่ลงได้ เพราะลำไส้กับสมองของเราสื่อสารกันอยู่ตลอด (เรียกว่า gut-brain axis) ถ้าร่างกายรับรู้ความเครียด หรือสัญญาณขับถ่ายเสียจังหวะบ่อย ๆ ลำไส้ก็อาจเริ่มทำงานรวน ๆ จนกลายเป็นอาการลำไส้แปรปรวนในที่สุด


4. กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรง

อันนี้หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน แต่จริง ๆ แล้วการนั่งถ่ายนาน ๆ และเบ่งบ่อย ๆ จะส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแรงได้ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่คลอดลูก หรือคนสูงอายุ กล้ามเนื้อกลุ่มนี้สำคัญมาก มันช่วยพยุงอวัยวะภายในไม่ให้เคลื่อนลงมา ถ้าอ่อนแรงมาก ๆ ก็อาจเกิดภาวะมดลูกหย่อน กระเพาะปัสสาวะเลื่อน หรือปัสสาวะเล็ดได้ บางคนเริ่มต้นแค่รู้สึกเหมือนถ่ายไม่สุด หรือท้องน้อยหน่วง ๆ แต่ถ้าไม่ระวังไว้ตั้งแต่แรก ก็อาจกลายเป็นปัญหาระยะยาวที่ต้องใช้กายภาพ หรือผ่าตัดรักษาเลยนะ


5. ติดเชื้อ

เวลานั่งแช่นาน ๆ โดยเฉพาะในห้องน้ำสาธารณะ หรือแม้แต่ในบ้านเราเอง ถ้าไม่ดูแลความสะอาดดีพอ มันก็เสี่ยงติดเชื้อได้เหมือนกัน เชื้อพวก E. coli, Staph, หรือแบคทีเรียที่อยู่บนพื้น โถส้วม มือถือ ตามจุดต่างๆ สามารถเข้าสู่ร่างกายเราได้ ทั้งทางผิวหนัง ทวารหนัก หรือช่องทางปัสสาวะ

สำหรับสาว ๆ ยิ่งเสี่ยงพิเศษ เพราะท่อปัสสาวะสั้นกว่า โอกาสติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI) ก็สูง แถมบางคนยังชอบกลั้นฉี่นาน ๆ อีก แบบนี้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเข้าไปอีกขั้น 

บอกเลยว่า แค่ "เลิกเอามือถือเข้าห้องน้ำ" ก็ลดความเสี่ยงได้เยอะแล้วจริง ๆ การขับถ่ายควรใช้เวลาไม่เกิน 5-10 นาที ถ้านั่งนานกว่านั้น แปลว่าเรากำลังใช้ห้องน้ำผิดวัตถุประสงค์แล้ว


วิธีดูแลตัวเองง่าย ๆ แบบไม่ต้องรอป่วยก่อน

  • ฝึกเข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา
  • ดื่มน้ำให้พอ
  • กินผักและไฟเบอร์เยอะ ๆ
  • เพิ่มโพรไบโอติกส์ ช่วยปรับสมดุลลำไส้ไส้ ระบบขับถ่ายด็จะดีตามไปด้วย ลดการเข้าห้องน้ำนานๆ
  • ขยับตัวบ่อย ๆ ไม่จมอยู่กับจอ

เพราะสุขภาพดี เริ่มต้นได้ง่าย ๆ แค่เลิก "นั่งแช่" นะครับ

 

ขอบคุณ FB : หมอเจด