- 16 ก.ย. 2568
ทนายความนำหลักฐานเด็ดส่งมอบ มัดตัวพระดังให้โอนเงินกว่า 12 ล้านจากบัญชีของมูลนิธิเข้าไปยังบัญชีส่วนตัวที่เยอรมนี
ล่าสุด วันที่ 16 กันยายน 2568 ทนายความของสีกาเยอรมนีนำเส้นทางการเงินบริจาควัดใน จ.ปทุมธานี มอบให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม หลังเข้าแจ้งความให้ตรวจสอบพฤติกรรมพระสงฆ์ ยืนยันไม่ใช่ประเด็นส่วนตัว โดยเป็นหลักฐานการโอนเงินจากมูลนิธิไปบัญชีส่วนตัวของพระที่เปิดไว้ที่เยอรมนี
นางสาวทองใหม่ ขวัญหมื่น ทนายความที่รับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย (สีกาเยอรมัน) ได้นำเอกสารหลักฐานเส้นทางการเงิน และสลิปการโอนเงินฉบับจริง มามอบให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามเพิ่มเติม ภายหลังจากได้เข้าแจ้งความให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดดังทุมธานี
โดยนางสาวทองใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนได้รับมอบหมายจากผู้เสียหายดำเนินการร้องทุกข์ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนจะมีการแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในวันนี้ตนได้นำพยานหลักฐานเข้ามามอบให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งประเด็นหลักในคดีนี้ เป็นเรื่องของการโอนเงินที่มีการเปิดบัญชีในประเทศไทย โดยเป็นการโอนเงินสดเข้ามายังบัญชีผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายมีหน้าที่ในการโอนเงินจากบัญชีตนเองไปยังบัญชีของสมาคมที่มีการเปิดไว้ในประเทศเยอรมนี
หลังจากนั้น พระรูปดังกล่าวได้พยายามให้ผู้เสียหายโอนเงินจากบัญชีของมูลนิธิเข้าไปยังบัญชีส่วนตัวของพระที่เปิดในประเทศเยอรมนี จึงทำให้ผู้เสียหายเริ่มสงสัยพฤติกรรมของพระรูปดังกล่าว ก่อนจะตัดสินใจแจ้งเรื่องมายังทนายในประเทศไทย เพื่อให้ช่วยเหลือในการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบกรณีนี้ ตั้งแต่เมื่อช่วงสองปีที่แล้ว
โดยช่วงแรกมีการโอนเงินไป 4 ครั้ง ได้แก่
ครั้งที่ 1 จำนวน 6,000,000 บาท
ครั้งที่ 2 จำนวน 2,700,000 บาท
ครั้งที่ 3 จำนวน 2,000,000 บาท
ครั้งที่ 4 จำนวน 1,500,000 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 12,200,000 บาท
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่า การที่ผู้เสียหายตัดสินใจแจ้งความร้องทุกข์ในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องชู้สาวแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่ผู้เสียหายเข้ามาทำหน้าที่ในส่วนนี้นั้น เป็นเพราะผู้เสียหายมีศรัทธาและต้องการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ จึงตัดสินใจมารับเป็นผู้มีอำนาจในการกระทำการแทน โดยผู้เสียหายได้เข้ามาบริหารจัดการและรับการว่าจ้างเป็นการส่วนตัว ซึ่งได้มีการชำระภาษีตามกฎหมายอย่างถูกต้อง
ส่วนคดีการฟอกเงินในประเทศเยอรมนีนั้น ตนไม่ขอให้ข้อมูล ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดดีกว่า ส่วนผู้เสียหายจะเดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ว่าจะดำเนินการอย่างไร
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้รับรายงานว่า ผู้เสียหายถูกพระดังกล่าวว่าจ้างเป็นรายเดือน ให้ดูแลสมาคมและมูลนิธิสอนพุทธศาสนา เดือนละ 174,000 บาท โดยทำหน้าที่บริหารจัดการกิจกรรมและดูแลด้านการเงินของสมาคมและมูลนิธิ






