- 18 ก.ย. 2568
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบสาวบัญชีม้า เอี่ยวแก๊งโรแมนซ์สแกมต่างชาติ ลวงเหยื่อโอนเงินค่าภาษีศุลกากร สูญกว่าแสนบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบสาวบัญชีม้า เอี่ยวแก๊งโรแมนซ์สแกมต่างชาติ ลวงเหยื่อโอนเงินค่าภาษีศุลกากร สูญกว่าแสนบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม น.ส.ประภัสสรฯ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดแพร่ ที่ จ.377/2566 ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 ความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.3 บก.ปอศ. เดินหน้ากวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่า โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุม น.ส.ประภัสสรฯ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดแพร่ ที่ จ.377/2566 ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ”
น.ส.ประภัสสรฯ เป็นผู้ต้องหาในเครือข่าย “บัญชีม้า” ในคดีโรแมนซ์สแกมที่หลบหนีหมายจับมานานเกือบ 2 ปี
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2566 ผู้เสียหายได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ ว่าถูกมิจฉาชีพชาวต่างชาติสร้างโปรไฟล์ปลอมรูปภาพดูดี เข้ามาทำความรู้จักผ่านช่องทางออนไลน์ในลักษณะเชิงชู้สาว (Romance Scam) เมื่อผู้เสียหายไว้ใจ มิจฉาชีพอ้างว่าของขวัญติดอยู่ที่กรมศุลกากร และขอให้ผู้เสียหายช่วยโอนเงินค่าภาษีนำเข้า จำนวนกว่า 100,000 บาท โดยโอนเข้าบัญชีของ น.ส.ประภัสสรฯ หลังโอนเงินแล้วไม่สามารถติดต่อมิจฉาชีพได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอกและเข้าแจ้งความจนศาลอนุมัติหมายจับ น.ส.ประภัสสรฯ ในฐานะเจ้าของบัญชี
ชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.3 บก.ปอศ. ลงพื้นที่พิสูจน์ทราบและเฝ้าสังเกตการณ์ จนพบ น.ส.ประภัสสรฯ ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวพร้อมบัตรข้าราชการตำรวจ ตรวจสอบบัตรประชาชน และแสดงหมายจับ น.ส.ประภัสสรฯ รับว่าเป็นบุคคลเดียวกัน
จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.ประภัสสรฯ อ้างว่า มีคนรู้จักหลอกให้ใช้โทรศัพท์ "สแกนใบหน้า" ผ่านแอปธนาคารเพื่อเปิดบัญชีออนไลน์ และให้กรอกข้อมูลส่วนตัว เมื่อบัญชีสำเร็จ บัญชีถูกคนรู้จักนำไปใช้โดยที่ตนไม่เคยได้รับสมุดบัญชีหรือบัตรเอทีเอ็ม และไม่เคยทราบความเคลื่อนไหวของเงิน จึงเชื่อว่าตนตกเป็นเหยื่อ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัว น.ส.ประภัสสรฯ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ เพื่อดำเนินคดี และจะขยายผลเพื่อติดตามผู้ร่วมขบวนการต่อไป ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
คำเตือน CIB การรับจ้างเปิดบัญชี หรือยอมให้ผู้อื่นใช้ชื่อท่าน "สแกนใบหน้า" เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายและอันตราย ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบในฐานะเจ้าของบัญชี มีโทษสูงสุด จำคุก 3 ปี ปรับ 300,000 บาท






