"RSV" ระบาดหนัก พบยอดผู้ป่วยสถิติปีนี้พุ่งสูงกว่าปีที่แล้ว

"RSV" ระบาดหนัก ยอดผู้ป่วยพุ่งสูงกว่าปีที่แล้ว ในช่วงฤดูฝนเช่นนี้ หนึ่งในโรคที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ RSV ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดพบว่ายอดผู้ป่วยในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ผู้ปกครองและผู้ที่มีเด็กเล็กต้องระวังเป็นพิเศษ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้ RSV ระบาดรุนแรง และวิธีป้องกันตัวเองให้ปลอดภัย

ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ให้รายละเอียดไว้ดังนี้ RSV ระบาดหนัก ผู้ป่วยปีนี้เพิ่มสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา

 

ข้อมูลโรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 4 กันยายน 2568 จากระบบเฝ้าระวังโรคดิจิทัล (DDS กองระบาดวิทยา และโปรแกรมตรวจสอบข่าวการระบาด พบผู้ป่วย 8,473 ราย เสียชีวิต 1 ราย (เด็กอายุ 5 เดือน) กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยสูงสุดเป็นกลุ่มเด็กเล็ก โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 0–4 ปี อัตราป่วย 243.20 ต่อ

 

ประชากรแสนคน รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 5–9 ปี (24.70) และกลุ่มอายุ 10–14 ปี (2.30) ตามลำดับ ทั้งนี้ แนวโน้มผู้ป่วยในปีนี้ยังคงเพิ่ม สูงขึ้นและสูงกว่าปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2567)

 

อาการของโรคเริ่มต้นคล้ายไข้หวัดธรรมดา คือ มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เจ็บคอ แต่หากพบอาการหายใจเร็ว หอบเหนื่อย หรือหายใจมีเสียงหวีด (Wheezing) หายใจลำบาก หน้าอกบุ๋ม ซึมลง รับประทานอาหารได้น้อยลง และเด็กไม่เล่น ไม่ดูดนม ควรรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์โดยเร็วเพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที

 

ปัจจุบันเป็นการรักษาตามอาการ ยังไม่มียาต้านไวรัสที่จำเพาะ ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคในผู้สูงอายุและหญิงตั้งครรภ์ รวมถึงภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปป้องกันในเด็กเล็กและกลุ่มเสี่ยง โดยการรับวัคซีนหรือภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปเป็นไปตามความสมัครใจและมีค่าใช้จ่าย ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมจากแพทย์ผู้รักษา หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน

แนวทางการป้องกันสำหรับประชาชนทั่วไป

1.ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ
2.เลี่ยงการนำมือที่ไม่สะอาดมาสัมผัสจมูก ปาก หรือตา
3.ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ช้อน ส้อม
4.หมั่นเช็ดถูทำความสะอาดของเล่นเด็กเป็นประจำ
5.เลี่ยงสถานที่แออัด เช่น ห้างสรรพสินค้า สวนสนุก ฯลฯ
6.สังเกตอาการ หากมีอาการไอมีเสียงหวีด หอบเหนื่อย ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

 

  หน่วยงานที่ตรวจสอบ
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข