ข่าวดีผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 'คนละครึ่ง' เติมเงินให้ครบคนละ 1,000 บาท

ความคืบหน้าล่าสุดในเรื่องของการขับเคลื่อนนโนบายเศรษฐกิจของรัฐบาลภายหลังที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้หารือกับภาคเอกชน ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าไทย ซึ่งเริ่มมีความชัดเจนเรื่องนโยบายมากขึ้น

ล่าสุดวันนี้ (19 ก.ย. 2568)  นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุมกับสภาหอการค้าไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ว่าที่ประชุมได้หารือร่วมกับภาคเอกชนถึงแนวนโยบายสำคัญที่จะใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังรัฐบาลชุดใหม่เริ่มทำงาน

ในส่วนของนโยบาย “คนละครึ่ง” กำลังเป็นที่จับตามอง แม้จะยังไม่ได้มีการประกาศรายละเอียดอย่างเป็นทางการ แต่มีแนวทางเบื้องต้นว่า ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับสิทธิ์ในลักษณะ top up เช่น หากบัตรสวัสดิการให้สิทธิ์ 300 บาท รัฐบาลจะเติมให้อีก 700 บาท รวมเป็น 1,000 บาท เพื่อไม่ให้น้อยกว่าประชาชนทั่วไป ขณะเดียวกันยังมีการพิจารณามอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมแก่ผู้ที่อยู่ในระบบภาษี เช่น อาจได้รับสิทธิ์ 1,200 บาทต่อคน แทน 1,000 บาท จากนี้ ต้องไปดูขั้นตอนทางเทคนิค แต่นโยบายนี้ ปฏิบัติแน่ เพราะหารือกันมาถึงแนวทางการปฏิบัติแล้ว

นายสิริพงศ์ระบุว่า ภาคเอกชนได้สะท้อนข้อเสนอหลักให้รัฐบาลดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งหรืออ่อนจนเกินไป เนื่องจากส่งผลต่อการนำเข้า–ส่งออก และการลงทุนด้านเครื่องจักร พร้อมกันนี้ยังเสนอให้มีมาตรการด้านภาษีที่จูงใจและเอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น

อีกประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นคือ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ต้องถูกเลื่อนจัดเก็บเต็มอัตราออกไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่เป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งหลายคนการได้มาซึ่งที่ดินคือการเก็บหอมรอมริบ เราไม่ควรต้องไปลงโทษคนกลุ่มนั้นนี่คือแนวทางของรัฐบาลชุดนี้ กำลังหาทางออกที่เหมาะสมกับทุกฝ่าย

ขณะที่นโยบายด้านพลังงาน นายสิริพงศ์เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมเดินหน้าโครงการ “โซลาร์ชุมชน” ภายใน 4 เดือน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 โดยตั้งเป้าผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในชุมชนรวมกว่า 1,500 เมกะวัตต์ในระยะเริ่มต้น

ในส่วนนโยบายเฉพาะหน้า จะมีการตรึงราคาพลังงาน และหากทำสำเร็จเรามองไปถึงการลดราคาพลังงานในปีหน้าเลย ซึ่งท่านว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีแนวทางไว้แล้วทีนี้ก็เหลือในเรื่องของการปฏิบัติจริงซึ่งกำลังหารือกันอย่างเข้มข้นรัฐบาลชุดนี้เราทำงานกันทุกวัน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังมีแนวคิดผลักดันให้แต่ละจังหวัดแต่งตั้ง รองผู้ว่าฯ ด้านเศรษฐกิจ เพื่อดูแลและขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงรุกในระดับพื้นที่ ถือเป็นการต่อยอดแนวทางที่เคยทำไว้สมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย