กัมพูชาอ้าง เอกสารแผนผังบ้านหนองหญ้าแก้วไม่ใช่เอกสารกำหนดเขตแดน

กัมพูชาออกแถลงการณ์อ้าง เอกสารที่มีการลงนามยอมรับว่า บ้านหนองหญ้าแก้ว เป็นของไทยนั้น ไม่ใช่เอกสารกำหนดเขตแดน

เนื่องจากเพจ “กองทัพบกทันกระแส” ได้ออกมาเผยแพร่เอกสารแผนผังแสดงลักษณะภูมิประเทศและที่ตั้งตามหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 สำรวจโดยชุดสำรวจร่วมไทย-กัมพูชาปี 2559

โดยหมุดที่ 43 ทั้งสองฝ่าย ไทย-กัมพูชา เห็นตรงกันตามพิกัดที่ระบุ ส่วนหมุดที่ 42 มีความเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งทั้งไทย-กัมพูชาได้ลงนามข้อตกลงร่วมกันในปี 2559 ว่ายอมรับแผนผังดังกล่าว ซึ่งมีทั้งพิกัดตรงกันและไม่ตรงกัน โดยจุดที่ไม่ตรงกันก็ยังคงเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ตาม MOU 43

ในเวลานั้น ฝ่ายกัมพูชา ลาย เซียงลี ดำรงตำแหน่ง ผอ.กองเทคนิคและการสำรวจ สำนักเลขาธิการหน่วยงานแห่งชาติที่รับผิดชอบเรื่องพรมแดนในขณะนั้น และปัจจุบันดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกิจการชายแดนของกัมพูชา เป็นผู้ลงนาม

โดยจุดที่เกิดเหตุประท้วงบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ห่างจากเส้นอ้างสิทธิ์สีแดงของกัมพูชา ประมาณ 250 เมตร นั่นหมายความว่า จุดที่กัมพูชากำลังประท้วงเป็นของไทย 100% และกัมพูชาก็เซ็นยอมรับแล้วตั้งแต่ปี 2559

กัมพูชาอ้าง เอกสารแผนผังบ้านหนองหญ้าแก้วไม่ใช่เอกสารกำหนดเขตแดน

ล่าสุดวันที่ 21 ก.ย. 68 สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งรัฐของกัมพูชา (SSBA) ได้ออกแถลงการณ์โต้แย้ง โดยอ้างว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงเอกสารแนบท้าย “ไม่ใช่เอกสารทางการที่ใช้กำหนดเส้นแบ่งเขตแดน”

SSBA ระบุว่า จากกรณีข้อมูลที่โพสต์โดยเพจเฟซบุ๊กชื่อ “กองทัพบกทันกระแส”เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 68 พร้อมแผนผังภาคสนามแสดงภูมิประเทศและตำแหน่งที่แน่นอนของเสาหลักเขตแดน

เอกสารเหล่านี้เป็นภาคผนวกของรายงานของคณะสำรวจข้อเท็จจริงลงวันที่ 24 พ.ย. 60 และ 28 ธ.ค. 59 ซึ่งจัดทำโดยคณะสำรวจร่วมกัมพูชา-ไทย เพื่อระบุตำแหน่งที่แน่นอนของเสาหลักเขตแดนหมายเลข 42 และ 43 ในพื้นที่เปรยจัน

กัมพูชาอ้าง เอกสารแผนผังบ้านหนองหญ้าแก้วไม่ใช่เอกสารกำหนดเขตแดน

โพสต์บนเฟซบุ๊กนี้ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและความสับสน โดยชี้ให้เห็นว่าผู้นำของสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งรัฐ ณ เวลานั้น ลาย เซียงลี ได้ลงนามและรับรองเส้นแบ่งเขตแดนในพื้นที่เปรยจันอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเสาหลักเขตแดนหมายเลข 42 และ 43

สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งรัฐกัมพูชาขอประกาศปฏิเสธอย่างเป็นทางการและปฏิเสธข้อมูลอันเป็นเท็จ ไม่เป็นมืออาชีพ และมีเจตนาเป็นอันตรายนี้โดยสิ้นเชิง เนื่องจากเป็นการนำเอกสารไปใช้ในทางที่ผิดและบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยมีเจตนาชัดเจนในการทำให้ประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าใจผิด

เพื่อให้ความจริงปรากฏต่อสาธารณชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนจึงขอชี้แจงประเด็นดังต่อไปนี้

1. เอกสารที่แสดงในเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นเพียงแผนผังภาคสนามแสดงภูมิประเทศและตำแหน่งที่แน่นอนของเสาหลักเขตแดน ซึ่งเป็นเอกสารแนบท้ายรายงานผลการสำรวจลงวันที่ 24 พ.ย. 60 และ 28 ธ.ค. 2559 ซึ่งจัดทำโดยคณะสำรวจร่วมกัมพูชา-ไทย เกี่ยวกับผลการสำรวจของคณะสำรวจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพและตำแหน่งของเสาหลักเขตแดนหมายเลข 42 และ 43 ซึ่งติดตั้งในสมัยอาณานิคมของฝรั่งเศส เอกสารเหล่านี้ไม่ใช่แผนที่หรือเอกสารทางการที่ใช้กำหนดเส้นแบ่งเขตแดน

2. ผู้ดูแลเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวได้ใช้ข้อมูลจากแผนที่ภาคสนามที่แสดงภูมิประเทศและตำแหน่งที่แน่นอนของเสาเขตแดนเพื่อสร้างเส้นเขตแดนบนภาพถ่ายดาวเทียมอย่างเป็นเท็จ โดยมีเจตนาทำให้สาธารณชนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าใจผิดว่าเส้นเขตแดนที่ถูกสร้างขึ้นนี้เป็นเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการที่คณะสำรวจร่วมกัมพูชา-ไทยตกลงกันไว้

3. พื้นที่เปรยจัน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเสาหลักเขตแดนหมายเลข 42 และ 43 เป็นพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการกำหนดเขตแดนบนพื้นที่ เรื่องนี้ต้องได้รับมติจากคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทย (JBC) และไม่มีกลไกหรือสถาบันอื่นใดที่มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องนี้

อีกครั้งหนึ่ง สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งรัฐกัมพูชา ขอปฏิเสธและประณามอย่างรุนแรงต่อข้อมูลเท็จและข้อมูลที่แต่งขึ้นจากเพจเฟซบุ๊กชื่อ “กองทัพบกทันกระแส” และขอเรียกร้องให้ประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่าหลงเชื่อหรือแชร์ข่าวปลอมดังกล่าว

นอกจากนี้ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งรัฐกัมพูชายังขอสนับสนุนให้มีการแชร์และเผยแพร่แถลงการณ์อย่างเป็นทางการฉบับนี้อย่างกว้างขวาง เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจและตระหนักรู้ถึงความจริงในเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น