"ชูวิทย์" ลั่นถึงถึงพรรคประชาชน ด้อมส้ม การเมืองเก่ารุ่นไฮบริด

ชูวิทย์ เผย "ด้อมส้ม" แปรสภาพเป็น “ด้อมส้มเน่า” ก็เพราะว่าแต่เขา (การเมืองเก่า) แต่อิเหนาเป็น (การเมืองเก่าแบบไฮบริด) เสียเอง

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาโพสต์อีกครั้ง ถึงพรรคประชาชน กับหัวข้อที่ว่า ด้อมส้ม การเมืองเก่ารุ่นไฮบริด ด้อมส้ม การเมืองเก่ารุ่นไฮบริดผมเชื่อถือคุณอนุทินว่าเป็นคนรักษาคำพูดรัฐบาลอยู่ 4 เดือนก็ 4 เดือน ไม่บิดพริ้วแต่ 4 เดือน มีเลือกตั้งอีก 2 เดือน รักษาการณ์ กว่า กกต. จะรับรอง จนมีการโหวตนายกฯ ใหม่ก็อีก 2 เดือน 

เบ็ดเสร็จ 8 เดือน เวลามากมายเพียงพอเหลือเฟือ กับการเตรียมสะสมกำลังพล วางแผนการระยะยาวในการกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลครั้งต่อไปอีก
เพราะเอาแค่ไม่ถึง 3 วัน บรรดา ส.ส. จากพรรครวมไทยสร้างชาติ แตกมา 2 สาย ทั้งสุชาติ และเอกนัฏ

พรรคกล้าธรรม ของธรรมนัส แถมด้วยบรรดาสารพัดงูเห่าจากพรรคเพื่อไทย และพรรคอื่นๆ ที่จะตามมาอีกมาก เรียกว่าแทบจะถอดเสื้อพรรคเก่า มาใส่เสื้อพรรคภูมิใจไทย ทำให้เสื้อขาดตลาด ผลิตไม่ทันคนใส่ พรรคประชาชน กับพรรคภูมิใจไทย จริงๆ เขาดีลกันมาก่อนตั้งแต่คลิปหลุดส.ว. ส่งศาลรัฐธรรมนูญ สั่งนายกฯ หยุดปฎิบัติหน้าที่ 
การไปทำ MOA เป็นเพียงพิธีการให้ดูขึงขังจริงจัง แค่ไปชูมือกันระหว่างอนุทินกับเท้งเป็นภาพละครฉากหนึ่งเท่านั้นหากงานนี้ไม่รู้จริง ไม่มีดีลกันมาก่อนแล้ว เรื่องจะกลับหลังหันไม่มีทางเกิดขึ้นได้ 

"ชูวิทย์" ลั่นถึงถึงพรรคประชาชน ด้อมส้ม การเมืองเก่ารุ่นไฮบริด

เพราะเดิมเป็นรัฐบาลกันอยู่ดีๆ กับพรรคเพื่อไทยย่อมปลอดภัยกว่าเรื่องอะไรจะไป หากไม่ชัวร์ 100% จึงเป็นเหมือน “ไฮโลเปิดถ้วยแทง” จะแทงผิดข้างได้ที่ไหนเล่า!
คนไหลมาพรรคภูมิใจไทยเป็นเทน้ำเทท่า ห้ามไม่อยู่ เขาว่ามากันเองทั้งนั้นแล้วผิดเงื่อนไข MOA ยังไง? 

ทั้ง 5 ข้อ ทำได้แค่ข้อเดียว คือ พรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้าน นี่คือความจริงของการเมือง (เก่า) ที่ทุกคนในวงการเมืองรู้  แต่มีบางคนแกล้งไม่รู้ อยากได้การเมืองใหม่ แต่ใช้วิธีการของการเมืองเก่าละครการเมืองมันโกหกกันไม่ได้ สักพักพอคนรู้ทันก็สายไปเสียแล้วครั้งนี้หากใครบอกว่านี่คือ “การเมืองใหม่” ที่ พรรคประชาชนต้องการทำ และตัวเกล้ากระผมเป็นพวกคิดแบบ ”การเมืองเก่า“ แล้วล่ะก็ ขอให้อ่านต่อไป เบื้องหลังการเติบโตแบบก้าวกระโดดของพรรคภูมิใจไทย ปฎิเสธไม่ได้ว่าพรรคประชาชนมีส่วนสนับสนุน

"ชูวิทย์" ลั่นถึงถึงพรรคประชาชน ด้อมส้ม การเมืองเก่ารุ่นไฮบริด

 

ที่บอกว่ากลัวอำนาจเก่า ”ลุงตู่“ จะกลับมา จึงเป็นเพียง ”ข้ออ้างบังหน้า” อย่างเท่ห์ๆ ว่าไม่เอาเผด็จการแต่บรรดาพลพรรค 3 ป. กลับได้เข้าไปสังกัดร่วมกับพรรคภูมิใจไทยเรียบร้อยหมดแล้ว ด้วยอภินันทนาการจากพรรคประชาชนเสียเองบรรดาคนรุ่นผมที่ว่าเป็นคนรุ่นเก่า มองการเมืองแบบเก่า

คือคนที่เลือกพรรคอนาคตใหม่เมื่อถูกยุบเป็นพรรคก้าวไกลก็ยังสนับสนุนเมื่อถูกยุบอีกเป็นพรรคประชาชน ก็ไม่เปลี่ยนยังเป็น ”ด้อมส้ม“ ดั้งเดิมมาแต่ต้น ตาไม่บอดสี 
14 ล้านเสียงที่ได้มาในการเลือกตั้งครั้งก่อน มันมีแต่คนรุ่นหนุ่มสาวไปเลือกเสียที่ไหนเพราะคนรุ่นเก่าอย่างพวกผมก็สำเหนียกดีว่า ต้องการ ”การเมืองใหม่” เหมือนกัน 
อย่าไปกีดกันแบ่งแยกว่าเป็นคนหนุ่มคนแก่ คนอย่างผมจึงสนับสนุน พิธา วิโรจน์ โรม ไปจนถึงน้องไอซ์ น้องลิซ่าและคนอย่างผมนี่แหละที่ไปสนับสนุนพรรคก้าวไกล ชูมือเชียร์ให้จัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งคาดหวังว่าต่อไปนี้การเมืองไทยจะเปลี่ยน

แล้วมันเป็นอย่างไร?ไม่ต้องอธิบายให้ “ด้อมส้มตาบอดสี“ ทราบ ให้เสียเวลาตราบมาถึงวันที่ ครม. อนุทิน คลอดออกมาด้วยผลผลิตของพรรคประชาชน


แค่เห็นหน้าค่าตาขนาดที่ว่า ครม. 4 เดือน ยังเด็ดสะเด่า ลีลาไดโนเสาร์เรียกพี่ มีทั้งคนคุณสมบัติไม่ผ่านส่งลูกเป็นรัฐมนตรีแทน


มีทั้งพี่น้องคลานตามกันมาเป็นรัฐมนตรีคู่แฝด แค่พี่ก็หนาวหูแล้ว มาเจอน้องอีก เลยขนลุกทั้งสองหู มีทั้งตอบแทนบุญคุณที่มาอยู่ด้วยกัน ฉลองชนแก้วไวน์กันหมดไปหลายลัง ขนาดซื้อข้าวสารเลี้ยงกันได้ทั้งอำเภอ มีทั้งนอมินีลูกหลานไปถึงสายพันธุ์บุรีรัมย์เต็มพรืด ยังไม่รวมบรรดาลิ่วล้อ มือเท้าระดับท้องถิ่น เต็มหน้าพรรคภูมิใจไทยจนที่จอดรถไม่พอ

ก่อนหน้านี้ยังไม่ทันโปรดเกล้า ก็เรียกบรรดาข้าราชการที่คุมคดีเข้าบ้านเอ่ยวาจาศักดิ์สิทธิ์ “หากไม่ทำตามก็โดนย้าย”ข้าราชการจึงหนาวถึงกระดูก รีบกลับตัวแทบไม่ทัน
ครม. อย่างนี้ เป็น ครม. ยี้ หรือเปล่า ลองพิจารณากันเอาเองก็แล้วกัน มันเป็นการเมืองใหม่ตรงไหนมิทราบ?

สิ่งที่ด้อมส้มรุ่นแก่อย่างผมอยากเห็น คือ ครม. หน้าใหม่สังกัดพรรคประชาชน ที่เข้าไปกุมอำนาจ ควบคุมรัฐบาลจนไปยุบสภา บริหารประเทศแบบการเมืองใหม่อย่างที่พูด
หรือกำหนดใน MOA ว่า ครม. 4 เดือน ต้องเป็น ครม. คนนอก เพื่อตัดเส้นทางทำมาหากินของพวกนักการเมืองเก่าที่ชอบย้ายพรรค ไม่มีอุดมการณ์ใดๆ ทำตัวเป็นสนลู่ลม เป็นรัฐบาลขอกุมอำนาจเสวยผลประโยชน์ไปวันๆไม่ใช่ไปปั้นให้พรรคภูมิใจไทยเติบโต แล้วตัวเอง (แกล้ง) เล่นบท “ฝ่ายค้านคุณภาพ” ตีฝีปากในสภาขู่ฟอดๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนทำให้เขาเกิดมา

ผมไม่ได้ไปติดใจคุณอนุทินแต่อย่างใด เพราะรู้ดีว่าพรรคภูมิใจไทยทำการเมืองทำนองสไตล์แบบนี้มาโดยตลอด ขอเป็นฝั่งรัฐบาลเท่านั้น ไม่ต้องแปลกใจแต่ที่แปลกใจอย่างยิ่ง คือ ผมต้องเปลี่ยนใจจาก “ด้อมส้ม” แปรสภาพเป็น “ด้อมส้มเน่า” ก็เพราะว่าแต่เขา (การเมืองเก่า) แต่อิเหนาเป็น (การเมืองเก่าแบบไฮบริด) เสียเอง นี่สิ! 


การเมืองที่ว่าใหม่ ที่ผมอยากได้ท้ายสุดมันดันกลายเป็นการเมืองเก่าจนเน่าคามือไปเสียฉิบ