ลูกช้างข้าวต้ม ขาหน้าเริ่มคลายตัว จิกเท้าและก้าวเดินได้มากขึ้น หลังทำกายภาพบำบัดต่อเนื่อง ทีมสัตวแพทย์ที่ต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด เพราะลูกสัตว์ที่อ่อนแอ

(28 ก.ย.68) กัญจนา ศิลปอาชา ได้ใช้พื้นที่เฟซบุ๊กส่วนตัวแจ้งข่าวการดูแลรักษาน้องข้าวต้ม ว่า  สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก น.สพ. นภัส เสวกวรรณ นายสัตวแพทย์ กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า ทีมสัตวแพทย์ดูแลการรักษาตลอดทั้งวันตั้งแต่ เวลา 06.00 - 18.00 น. ลูกช้างป่า “ข้าวต้ม” กินนมได้ กินน้ำได้ ขับถ่ายได้ อุจจาระมีลักษณะเนื้อครีมเหลวเล็กน้อย  (สีเขียวขี้ม้าอ่อน) ปัสสาวะสีใส บริเวณสะดือยังพบหนอง และเล็บมีหนอง ต้องทำความสะอาดแผลทุกวัน

 

อัปเดตการรักษา "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่าพลัดหลง ขาหน้าเริ่มคลายตัว
 

ลูกช้างป่ามีกำลังในการถีบตัวเองเพื่อให้ตัวเองยืนขึ้นบ่อยครั้งขึ้น โดยมีสัตวแพทย์และคณะเจ้าหน้าที่ช่วยพยุงตัว จับเท้ายืดเหยียดขณะเดิน ผลการตรวจเลือด พบว่า ค่าไต ค่าตับ ลดลง ค่าการสลายของกล้ามเนื้อลดลง สัตวแพทย์ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ อย่างต่อเนื่อง เมื่อตรวจวัดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดเวลา 14.00 น. ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดปกติ

 

อัปเดตการรักษา "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่าพลัดหลง ขาหน้าเริ่มคลายตัว

สัตวแพทย์ทำการรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัดโดยใช้เครื่องอัลตราซาวด์ ทำหัตถการยืดเหยียดข้อต่อ และใช้แสงเลเซอร์รักษา จากการตรวจอาการพบว่า ขาหน้า เริ่มคลายตัวเล็กน้อย จากการที่ได้ทำกายภาพบำบัดรักษา และมีการจิกเท้าก้าวเดินได้มากขึ้น ทั้งนี้สัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ยังคงต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด เพราะลูกสัตว์ที่อ่อนแอสามารถมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆที่ส่งผลต่อสุขภาพได้

อัปเดตการรักษา "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่าพลัดหลง ขาหน้าเริ่มคลายตัว

อัปเดตการรักษา "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่าพลัดหลง ขาหน้าเริ่มคลายตัว