หมอเจด เผยเอง "5 มะเร็ง" คัดกรองได้ ลดโอกาสเจอระยะ 4 สำคัญมาก

"หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า 

หลายคนเวลาได้ยินคำว่า “มะเร็ง” ก็มักจะรู้สึกกลัวและคิดว่าเจอทีไร = ระยะสุดท้ายเสมอ แต่จริง ๆ แล้วมะเร็งบางชนิดเราสามารถ “ตรวจคัดกรอง” ได้ตั้งแต่ระยะแรก ๆ ซึ่งถ้าเจอตั้งแต่ตอนนั้น โอกาสรักษาหายขาดสูงมาก และไม่ต้องรอจนโรคหนักถึงระยะ 4 ค่อยเจอ โดยปัจจุบันโรคมะเร็ง 5 ชนิดนี้แหละ ที่การตรวจคัดกรองช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตได้ วันนี้ผมเลยเอามาสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ เผื่อใครยังไม่เคยตรวจ หรือกำลังชั่งใจอยู่ครับ

1.มะเร็งปากมดลูก

พูดถึงมะเร็งที่ป้องกันได้จริง ๆ ต้องยกให้มะเร็งปากมดลูก เพราะเรารู้แล้วว่าสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อ HPV และการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ซึ่งใช้เวลาหลายปี วิธีตรวจที่ใช้กันคือ Pap smear, LBC หรือ HPV DNA test เริ่มตั้งแต่อายุ 25–65 ปี ตรวจทุก 3–5 ปี ขึ้นกับวิธีที่ใช้ ถ้าเจอตั้งแต่ยังเป็นแค่เซลล์ผิดปกติ (precancer) ก็รักษาหายขาดได้ 100% ไม่ทันไปถึงระยะ 4 ครับ

2. มะเร็งเต้านม

โรคนี้ถือเป็นมะเร็งที่ผู้หญิงเจอบ่อยสุด การตรวจด้วยแมมโมแกรม (บางรายเสริมด้วยอัลตราซาวด์) ทุก 1–2 ปีตั้งแต่อายุ 40–69 ปี เป็นมาตรฐานที่ใช้ทั่วโลก ข้อดีคือถ้าเจอตั้งแต่ก้อนเล็ก ๆ ระยะต้น การผ่าตัดหรือฉายแสงมักรักษาหายขาดได้ แต่ถ้าปล่อยไปจนถึงระยะ 4 โอกาสกลับมาใช้ชีวิตปกติจะน้อยลงมากครับ

3. มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

หลายคนอาจไม่รู้ว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่มักเริ่มจาก “ติ่งเนื้อเล็ก ๆ” ที่ใช้เวลาหลายปีค่อย ๆ โตและเปลี่ยนเป็นมะเร็ง วิธีตรวจมาตรฐานคือส่องกล้อง (Colonoscopy) ทุก 10 ปี หรือถ้ายังไม่สะดวก สามารถตรวจอุจจาระหาเลือดแฝง (FIT/FOBT) ทุกปี ถ้าผลผิดปกติค่อยส่องกล้องต่อ การส่องกล้องแล้วหมอตัดติ่งออกได้เลย เท่ากับป้องกันมะเร็งตั้งแต่ยังไม่เกิดครับ

4. มะเร็งตับ

สำหรับบ้านเรา มะเร็งตับถือเป็นตัวร้ายอันดับต้น ๆ เพราะคนไทยยังเจอโรคไวรัสตับอักเสบบี ซี และไขมันพอกตับกันเยอะ กลุ่มเสี่ยงควรตรวจด้วยอัลตราซาวด์ช่องท้องร่วมกับเจาะเลือด AFP ทุก 6 เดือน ข้อดีคือถ้าเจอตอนก้อนยังเล็ก ๆ หมอสามารถผ่าตัด จี้ความร้อน หรือแม้แต่ปลูกถ่ายตับได้ แต่ถ้าปล่อยจนเป็นระยะ 4 โอกาสรักษาได้น้อย

5. มะเร็งปอด

เพราะมะเร็งปอดส่วนใหญ่แทบไม่แสดงอาการ กว่าจะรู้ก็มักเจอตอนลุกลามแล้ว การคัดกรองด้วย CT แบบรังสีต่ำ (LDCT) ปีละครั้ง จึงช่วยชีวิตคนสูบบุหรี่จัด หรือคนที่หยุดสูบไม่ถึง 15 ปีได้มาก หลักฐานจากการศึกษาขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ พบว่าช่วยลดอัตราเสียชีวิตจากมะเร็งปอดได้ราว 20% เลยทีเดียวครับ

สุขภาพดีไม่ได้มาจากการดูแลแค่วันสองวัน แต่เกิดจากการ “ตรวจและป้องกัน” อย่างต่อเนื่อง การคัดกรองมะเร็งเป็นเหมือนการมองอนาคตล่วงหน้า ว่าเรามีอะไรที่ควรรีบแก้ก่อนจะสาย ใครที่คิดว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยง แนะนำรีบไปตรวจคัดกรองเบื้องต้นเพื่อเช็คตัวเอง หากใครมีคำถามคอมเมนต์ไว้ได้เลยนะครับ