- 01 ต.ค. 2568
น้ำท่วมอุตรดิตถ์หนักสุดในรอบ 40 ปี เรือกู้ภัยของพี่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พลิกคว่ำขณะช่วยอพยพชาวบ้าน ทีมกู้ภัยยังคงเร่งช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ลุ่มต่ำต่อเนื่อง
วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ทีมกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู นำโดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมดาราและเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ร่วมกับหน่วยกู้ภัยหลายหน่วยและเจ้าหน้าที่รัฐ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.ตรวน ต.บ้านแก่ง จ.อุตรดิตถ์ โดยเน้นช่วยกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ป่วย เด็ก ผู้หญิง และคนชรา
ตลอดทั้งวัน ทีมกู้ภัยใช้ทั้งเรือกู้ภัยและรถยกสูงเข้าถึงพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมสูง แต่ในช่วงสายเกิดเหตุไม่คาดคิด เรือกู้ภัยของบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ขณะนำหญิงผู้ประสบภัย 2 รายออกจากพื้นที่ถูกกกระแสน้ำแรงพัดชนเสา ทำให้เรือล่มและพลิกคว่ำ โชคดีที่ทีมงานสามารถช่วยเหลือทุกคนได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (30 ก.ย.68 ) มูลนิธิร่วมกตัญญู นำโดย คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผจก.ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ มูลนิธิฯ พร้อมด้วย นาย วิภพ บางยี่ขัน หรือ เวฟ สาริน อาสาสมัครดาราประชาสัมพันธ์ และเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูส่วนกลางและรวงข้าวสารเหนือรวมกว่า 100 นาย นำเรือท้องแบน และทีมตอบโต้ภัยพิบัติ ลงพื้นที่ชุมชน วังปรากฏ ตำบลปากคาย อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์
เพื่อเข้าช่วยเหลือและอพยพกลุ่มเปราะบางออกจากบ้านพักกลางดึก ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว ประกอบกับในพื้นที่ถูกตัดกระแสไฟและสัญญาณสื่อสาร ทำให้มีชาวบ้านติดค้างในบ้านพักจำนวนมาก หลายคนต้องพากันอยู่ที่ชั้นสองของบ้านพัก ขณะที่บางกลุ่มต้องอาศัยกระบะของรถอีแต๋นอาศัยอยู่ชั่วคราวเพื่อรอให้เจ้าหน้าที่เข้ามารับออกไปยังพื้นที่ปลอดภัย
จากการลงพื้นที่พบว่ายังมีชาวบ้านอีกจำนวนมาก ต่างพากันโบกไฟฉายเพื่อขอความช่วยเหลือและขอข้าวกล่องและน้ำดื่มเนื่องจากไม่ได้ทานข้าวกันตั้งแต่ช่วงบ่าย หลังจากมวลน้ำมหาศาลไหลบ่าเข้าท่วมชุมชนอย่างรวดเร็วจนชาวบ้านตั้งหลักกันไม่ทัน
ด้าน ชาวบ้านระบุว่าน้ำท่วมครั้งนี้ถือว่าเป็นน้ำท่วมสูงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาและท่วมหนักสุดในรอบกว่า 40 ปี ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยท่วมถึงบนถนนสายหลักของหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านต่างพากันนำเอารถยนต์และรถจักรยานยนต์ไปจอดบนถนนเพราะคิดว่าน้ำท่วมไม่ถึง แต่สุดท้ายถูกน้ำท่วมจนแทบมิดหลังคารถ ขณะที่บางรายรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ในบ้านถูกกระแสน้ำพัดพาหายไปกับน้ำก็มี
ในส่วนของทางมูลนิธิร่วมกตัญูญู ได้เตรียมกำลังและอุปกรณ์ทั้งกู้ชีพและกู้ภัย รวมถึงโรงครัวเข้ามาในพื้นที่เพื่อเตรียมช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว หลังจากนี้ต้องดูว่าน้ำจะลงไปที่ใดบ้าง ซึ่งก็ต้องคอยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือชาวบ้านได้ทันที






