กรมอุตุฯ เตือน ภาคใต้เสี่ยงเจอพายุฤดูร้อนช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.

กรมอุตุฯคาดฤดูหนาว 2568 ของไทย เริ่มต้นปลายเดือนตุลาคมนี้ สิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2569 เฉลี่ยค่าอุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส สูงกว่าค่าปกติ 1 องศา ไม่นับรวมอุณหภูมิบนเทือกเขา ยอดดอย ยอดภู ที่จะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ขณะที่ภาคใต้เสี่ยงเจอพายุฤดูร้อนช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.

กรมอุตุนิยมวิทยา ออก เอกสารเผยแพร่ คาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2568 ว่าบริเวณประเทศไทยตอนบนจะเริ่มต้นฤดูหนาวประมาณปลายเดือนตุลาคม 2568 ซึ่งจะช้ากว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 2 สัปดาห์ และจะสิ้นสุดประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2569

ขณะที่อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยบริเวณประเทศไทยตอนบนประมาณ 21 องศาเซลเซียส จะสูงกว่าค่าปกติประมาณ 1 องศาเซลเซียส (ค่าปกติ 19.9 องศาเซลเซียส) และจะมีอากาศหนาวเย็นน้อยกว่าปีที่ผ่านมา (อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยปีที่ผ่านมา 20.7 องศาเซลเซียส )

กรมอุตุฯ เตือน ภาคใต้เสี่ยงเจอพายุฤดูร้อนช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.

 

สำหรับอุณหภูมิต่ำที่สุดประมาณ 7-8 องศาเซลเซียส ส่วนมากจะอยู่ตอนบนของทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนอุณหภูมิต่ำที่สุดบริเวณ กรุงเทพมหานคร 18-20 องศาเซลเซียส และบริเวณจังหวัดปริมณฑล 16-18 องศาเซลเซียส

ส่วนช่วงเวลาที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุด ประมาณกลางเดือนธันวาคม 2568 ถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2569 สำหรับยอดดอยและยอดภูรวมทั้งเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง

ส่วนภาคใต้จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางช่วง ส่วนมากตอนบนของภาค แต่ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไป โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง ซึ่งจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้ในหลายพื้นที่ สำหรับคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยจะมีกำลังแรงเป็นระยะ ๆ ในบางช่วงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรมอุตุฯ เตือน ภาคใต้เสี่ยงเจอพายุฤดูร้อนช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.

เกณฑ์อุณหภูมิต่ำสุดในช่วงฤดูหนาว
อากาศเย็น หมายถึง อุณหภูมิต่ำสุด 16.0-22.9 องศาเซลเซียส
อากาศหนาว “อุณหภูมิต่ำสุด 8.0-15.9 องศาเซลเซียส”
อากาศหนาวจัด “อุณหภูมิต่ำสุด ต่ำกว่า 8.0 องศาเซลเซียส”

กรมอุตุนิยมวิทยาระบุเพิ่มเติมว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำ และมีโอกาสสูงที่จะพัฒนาตัวเป็นพายุหมุนเขตร้อนแล้วเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้หรือเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ ซึ่งจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น รวมทั้งคลื่นลมจะมีกำลังแรง และอาจมีคลื่นพายุซัดฝั่ง ความสูงของคลื่นประมาณ 4-5 เมตร

สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนธันวาคมจะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางวัน กับมีหมอกในตอนเช้า โดยจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และอาจมีลมกระโชกแรงบางแห่งในบางวัน

และตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ จะมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป กับจะมีหมอกหนาหลายพื้นที่ในบางช่วง จากนั้นลักษณะอากาศจะแปรปรวน โดยอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น และมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวัน โดยมีฝนบางแห่งในบางวัน

1.เดือนตุลาคม บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนจะยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับจะมีน้ำเหนือไหลบ่าลงมา และในบางช่วงจะมีน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำล้นตลิ่งได้ในบางพื้นที่

2.เดือนธันวาคมและมกราคม บริเวณยอดดอยและยอดภูมักจะเกิดน้ำค้างแข็งขึ้นได้ กับจะมีหมอกหนาเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้น ผู้ใช้ยวดยานพาหนะควรเพิ่มความระมัดระวังเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

3.เดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ อาจมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนตัวจากประเทศเมียนมาผ่านประเทศไทยตอนบน ซึ่งจะทำให้ช่วงดังกล่าวเกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่

4.เดือนพฤศจิกายนและธันวาคม มักมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะพัฒนาเป็นพายุหมุนเขตร้อนและเคลื่อนเข้ามาใกล้ หรือเคลื่อนผ่านบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น รวมทั้งคลื่นลมจะมีกำลังแรงและอาจเกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง โดยมีความสูงของคลื่นประมาณ 4-5 เมตร

กรมอุตุฯ เตือน ภาคใต้เสี่ยงเจอพายุฤดูร้อนช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.