เตือนนทท. ห้ามทำเด็ดขาด หลังเกิดฟ้าผ่า นทท.บนดอยปุยหลวง

เตือนนทท. ห้ามทำเด็ดขาด หลังเกิดฟ้าผ่า นทท.บนดอยปุยหลวง ขณะชมความงามบนยอดดอยปุยหลวง จ.แม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง แบกคนเจ็บลงจากเขานำส่งโรงพยาบาล

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 18.00 น. เกิดเหตุ ฟ้าผ่ากลุ่มนักท่องเที่ยวบนยอดดอยปุยหลวง บ้านห้วยฮี้ ต.ห้วยปูลิง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวหญิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย

ทีมงานและลูกหาบต่างช่วยกันนำผู้บาดเจ็บลงจากยอดดอย ซึ่งมีระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ท่ามกลางฝนตกหนัก ฟ้าคะนอง และเส้นทางที่ลื่นชัน ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถนำตัวถึงรถพยาบาลได้ โดยผู้บาดเจ็บยังรู้สึกตัวและตอบสนองได้ดี

 

เตือนนทท. ห้ามทำเด็ดขาด หลังเกิดฟ้าผ่า นทท.บนดอยปุยหลวง

เวลา 20.45 น. ผู้บาดเจ็บถูกนำส่งถึงโรงพยาบาลศรีสังวาลย์ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ก่อนแพทย์ส่งต่อไปรักษาอย่างเร่งด่วนที่ โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ ในช่วงดึกวันเดียวกัน
ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.ภัทรพร รัตนสุคนธ์ อายุ 30 ปี ชาว อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดินทางมาท่องเที่ยวกับกรุ๊ปจากกรุงเทพฯ รวม 20 คน โดยเธอมีบาดแผลไฟไหม้จากกระแสไฟฟ้าในหลายจุดของร่างกาย

ว่าที่พันตรี ยุทธนา เจ้าดูรี นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เหตุเกิดบริเวณ จุดชมวิวดอยปุยหลวง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม โดยช่วงเวลานั้นมีฝนตกหนักและฟ้าคะนองรุนแรง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมกับโรงพยาบาลศรีสังวาลย์ และหน่วยกู้ภัยในพื้นที่เร่งเข้าช่วยเหลือทันที

 

เตือนนทท. ห้ามทำเด็ดขาด หลังเกิดฟ้าผ่า นทท.บนดอยปุยหลวง

นายอำเภอยังได้ ออกมาเตือนนักท่องเที่ยว ว่า หากอยู่บนพื้นที่สูงหรือยอดเขาในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนอง ควรรีบปิดโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด หลีกเลี่ยงการอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หรือในกระท่อม และควรหมอบในที่ต่ำ เพื่อป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า

สำหรับพื้นที่ ดอยปุยหลวง นับเป็นจุดที่มีฟ้าผ่าเกิดขึ้นบ่อยในช่วงฤดูฝนและปลายฝนต้นหนาว ต้นไม้สนขนาดใหญ่หลายต้นถูกฟ้าผ่าจนตาย รวมถึงสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน เช่น วัวและควาย ที่หากินบนยอดดอย ก็เคยถูกฟ้าผ่าตายมาแล้วหลายครั้ง

เตือนนทท. ห้ามทำเด็ดขาด หลังเกิดฟ้าผ่า นทท.บนดอยปุยหลวง

 

เหตุการณ์ครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์ให้ผู้รักธรรมชาติและนักเดินป่าทุกคน เพิ่มความระมัดระวังทุกครั้งที่ขึ้นดอยในช่วงฝนฟ้าคะนอง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุสลดซ้ำรอยอีก

 

ขอบคุณภาพ  Gig Anukoon